นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และประธานคณะกรรมการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด เปิดเผยว่า บริษัท คิงส์เกตฯ ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาท(สเตทเมนท์ ออฟ เคลม) เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในกรณีพิพาทกับราชอาณาจักรไทยเกี่ยวกับการประกอบกิจการเหมืองทองของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทย-ออสเตรเลีย หรือ ทาฟต้า ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ โดยการยื่นคำเสนอข้อพิพาทเป็นขั้นตอนปกติในขั้นแรกของกระบวนการอนุญาโตตุลาการ และถือเป็นเพียงการใช้สิทธิของบริษัท คิงส์เกตฯ ภายใต้ทาฟต้า เท่านั้น ยังไม่มีการตัดสินชี้ขาดแต่อย่างใด หลังจากนี้ไทยจะยื่นคำคัดค้านกลับไปที่อนุญาโตตุลาการในเร็วๆนี้
“ระหว่างนี้คณะอนุญาโตตุลาการจะต้องรวบรวมข้อมูลและพิจารณาพยานหลักฐานโดยละเอียดจากทั้งสองฝ่าย ก่อนมีคำตัดสินชี้ขาดต่อไป โดยระหว่างกระบวนการอนุญาโตตุลาการนี้ คู่กรณียังสามารถหารือเพื่อหาทางออกร่วมกันได้”นายพสุกล่าว
สำหรับ บริษัท คิงส์เกตฯ เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท อัคราฯ ซึ่งประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำในพื้นที่จังหวัดพิจิตรและเพชรบูรณ์ ที่ผ่านมาประชาชนมีการร้องเรียนและคัดค้านการทำเหมืองแร่ทองคำมาเป็นเวลานาน ว่าอาจส่งผลกระทบทำให้สิ่งแวดล้อมปนเปื้อน เกิดอันตรายต่อสุขภาพและสุขอนามัยของประชาชนในระยะยาว เป็นเหตุให้มีการออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระงับการอนุญาตและการทำเหมืองแร่ทองคำทั้งหมดในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนไว้ก่อน บริษัท คิงส์เกตฯ จึงใช้สิทธิตามทาฟต้า ขอเจรจากับรัฐบาลไทย แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ จึงใช้สิทธิในการนำข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ
