| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
เลือกตั้งต้องกุมภาฯ62
กฎหมายลูกเลือกตั้ง 2 ฉบับสุดท้าย ฝ่าด่านคัดกรองมาได้ไม่ยากเย็น ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด้วยเสียงเอกฉันท์ ทั้งร่างฉบับการได้มาซึ่ง ส.ว. และเลือกตั้ง ส.ส. ไม่ขัดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
การตัดสินอันเป็นที่สุดนี้ ช่วยขจัดคลายความวิตกกังวล การเลือกตั้งอาจต้องยืดยาว เนิ่นนานออกไประดับหนึ่ง
รวมถึงอาจไม่มีการเลือกตั้งก็ได้ หากเนื้อหาสาระสำคัญขัดรัฐธรรมนูญ อันทำให้ร่างตกไปทั้งฉบับ ต้องกลับมาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
แต่เมื่อ 2 ฉบับหลุดมาได้ ก็เท่ากับว่า โรดแมปที่ คสช.กำหนดไว้ เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
เริ่มต้นนับได้-เดินได้ตามปฏิทิน การจัดทำ(ร่าง)กฎหมาย แม้ไม่สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำนัก ว่ามีการเลือกตั้งแน่ๆ 100% ตามโรดแมป หรือเวลาไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่ปักหมุดไว้มากนัก
เนื่องจากยังมี ม.44 ที่ให้อำนาจหัวหน้า คสช. ลบล้าง เปลี่ยนแปลง แก้ไขได้
ดังมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว จากกรณี พ.ร.ป.พรรคการเมือง ที่แม้มีผลบังคับใช้แล้ว แต่มีการใช้อำนาจ ม.44 ยกเลิกบางมาตรา และออกคำสั่ง ให้ใช้คำสั่ง คสช.แทน
อย่างไรก็ตาม เมื่อ บิ๊กตู่ ยืนยันหนักแน่น ทั้งโรดแมปเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2562 หรือที่ว่า ทุกอย่าง เป็นไปตามลำดับขั้นตอน กฎหมายเขียนไว้อย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามนั้น จะไม่เชื่อก็คงไม่ได้ คำพูดเป็นนายเสียขนาดนี้
น้ำหนักของคำมั่นสัญญา เป็นที่มาของการไล่ปฏิทินวันเลือกตั้ง
อย่างแรกสุด มีความเป็นไปได้มาก-น้อยแค่ไหน ที่จะเลือกตั้งกุมภาพันธ์ 2562 สรุปว่า
เป็นไปได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้เนื่องจาก การดำเนินการ ตามกระบวนการขั้นตอนต่างๆ มีกรอบเวลาชัดเจน
อุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ระบุ หลังจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะส่งคำวินิจฉัยมายัง สนช.เพื่อส่งร่างต่อไปถึงนายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯก่อนบังคับใช้เป็นกฎหมาย ขั้นตอนมีระยะไม่เกิน 90 วัน และเมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะทำให้กฎหมายลูกเลือกตั้งทั้ง 4 ฉบับมีผลบังคับใช้ครบ แต่ต้องรออีก 90 วัน เนื่องจากการขยายเวลามีผลบังคับใช้ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.
เมื่อครบ 90 วัน จะมีการหารือกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 150 วัน หากนับเต็มเพดาน การเลือกตั้งจะมีขึ้นภายใน 11 เดือนนับจากมิถุนายน หรือตรงกับเดือนเมษายน 2562
แต่หากต้องการจัดเลือกตั้งตามโรดแมป กุมภาพันธ์ 2562 ก็ทำได้โดยประกาศเลือกตั้งใน 90 วัน ไม่ต้องครบซิลลิ่ง 150 วัน
ดูจากการไล่ไทม์ไลน์ ของโฆษก กรธ. นักวิชาการ หรือฝ่ายการเมือง
เร็วสุด จะจัดเลือกตั้งปลายปีนี้ก็ได้
แต่ช้าสุดเมษายน-พฤษภาคม 2562 ซึ่งขึ้นอยู่กับการเริ่มต้นของรัฐบาล เบื้องต้น วิษณุ เครืองาม รองนายกฯให้สัมภาษณ์ เตรียมนำร่างกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯภายในเดือนมิถุนายนนี้
และขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรี และ คสช. ซึ่งมีหัวหน้าเป็นคนเดียวกัน ที่จะเรียกหารือปลดล็อก
รวมถึงจัดทำแผนขั้นตอน เพื่อนำไปสู่การกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป
กรอบเวลา 150 วันที่มีอยู่นั้น บิ๊กตู่ สามารถนำมาเป็นเครื่องมือบริหาร จัดการได้
โดยเฉพาะการบริหารงานการเมือง เลือกวันเลือกตั้งที่เหมาะสม
กรอบ 150 วัน อาจเปรียบได้กับ 5 เดือนสุดท้ายรัฐบาลทั่วไป นายกฯอาจชิงยุบสภาเลือกตั้งก่อนก็ได้ หากเห็นว่า รัฐบาลอยู่ในช่วงขาขึ้นคะแนนนิยมดี เพื่อเพิ่มโอกาสคัมแบ๊กอีกครั้ง ไม่รอครบเทอม อาจได้ไม่คุ้มเสีย
กรณีรัฐบาล คสช.อาจแตกต่างบ้าง ตรงที่มีทั้งข้อได้เปรียบและเสียเปรียบ
แต่เวลาที่เหลืออยู่น้อยนิด 150 วันเท่านี้ จะกอบกู้อะไรได้มากน้อยแค่ไหนยังเป็นคำถาม
4 ปีการบริหารที่่ผ่านไป สภาพการณ์ต่างๆ วันนี้ก็ฟ้องอยู่
ดังนั้นจะอยู่สั้น-อยู่ยาวครบ 150 วัน ก็ต้องไปชั่งน้ำหนักให้ดี
มีอำนาจ-เครื่องมือพร้อมอยู่แล้ว
150 วันมีข้อดีที่ทำให้สามารถยืดหยุ่น ดิ้นได้ ร่นวันให้เร็วขึ้นหน่อย
โรดแมปเลือกตั้งกุมภาพันธ์ 2562 ก็ยังอยู่ บิ๊กตู่ ก็ได้ชื่อว่ารักษาคำพูด
แต่กุมภาฯ62 ก็ล็อกตาย เอาไว้เหมือนกัน
มี 150 วันก็เหมือนไม่มี เพราะทันทีที่ 4 ฉบับมีผลบังคับใช้ บิ๊กตู่ มีเวลาจริงแค่ 90 วันเท่านั้น อีก 60 วันไม่มีความหมาย
หากล่วงเลย 90 วันเมื่อใด เท่ากับโรดแมปเลือกตั้งเขยื้อน
ที่ยืนยันหนักแน่น กุมภาฯ62 ก็ทำให้เป็นจริงไม่ได้
ถ้าเลื่อนเลือกตั้งอีกครั้ง ก็อาจเสี่ยงเสียคน ส่งผลต่อภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ
เว้นแต่มีเหตุผลอธิบายได้-ฟังขึ้นจริงๆ และเอ่ยปากขอโทษประชาชนที่ไม่อาจจัดให้มีเลือกตั้งเดือนกุมภาฯ62 ได้ เหมือนกับที่ขอโทษอดีตพระพุทธะอิสระ
แบบนี้อาจพอผ่อนหนักเป็นเบา สังคมอภัยให้ได้ หากเห็นคุณค่า-ให้ความสำคัญประชาชน
จำลอง ดอกปิก
