‘นิสสัน เทอร์ร่า’มิดไซซ์เอสยูวี‘มาช้ายังดีกว่าไม่มา’ : โดย กุลนันทน์ ยอดเพ็ชร

Nissan Terra

เปิดตัวเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลาง หรือมิดไซซ์ เอสยูวี (Midsize SUV) ที่มีโครงสร้างเป็นปิกอัพรุ่นล่าสุดจากแบรนด์นิสสันในชื่อ นิสสัน เทอร์ร่า (Nissan Terra) ผลิตในประเทศไทยและส่งออกสู่เพื่อนบ้านอาเซียน

แม้จะมีคำถามหลังงานตามมาว่า “เป็นการเปิดตัวเมื่อตลาดเอสยูวีวายไปแล้วหรือไม่”

แต่จากเสียงของผู้บริหารและวิศวกรผู้ออกแบบรถต่างยืนยันว่า อุปสงค์หรือความต้องการในตลาดรถยนต์ประเภทนี้โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังสามารถเติบโตได้ ที่สำคัญการกล้าเปิดตัวหลังคนอื่นย่อมต้องมีความมั่นใจว่า นิสสัน เทอร์ร่า (Terra) เป็นคำในภาษาละติน แปลว่าโลก (Earth) จะต้องแตกต่างกว่าเอสยูวีทุกคันของทุกค่ายที่ผ่านมา

Advertisement

บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญชวนสื่อมวลชนไทยร่วม 20 ชีวิต ลัดฟ้าไปร่วมงานเปิดตัวที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในพื้นที่ราบที่ตั้งอยู่ระหว่างภูเขาไฟอันสูงตระหง่านของเมืองคลาร์ก จ.ปัมปังกา ประเทศฟิลิปปินส์ นับเป็นตลาดลำดับที่สองในโลกหลังจากนิสสันเปิดตัวเทอร์ร่าเป็นครั้งแรกในประเทศจีนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

เหตุผลสำคัญที่ทำให้เมืองคลาร์กถูกเลือกเป็นสถานที่เปิดตัว เนื่องจากที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากมะนิลาเมืองหลวง ด้วยระยะเวลาเดินทางเพียง 2 ชม. เหมาะสำหรับครอบครัวที่มองหาสถานที่พักผ่อนวันหยุดไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไกล และคลาร์กยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ด้วยครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองที่ตั้งของฐานทัพอากาศสหรัฐอเมริกาด้วย

Advertisement

สำหรับพระเอกของงานอย่างเอสยูวี 7 ที่นั่ง รุ่นเทอร์ร่า กำลังจะเปิดจำหน่ายให้ลูกค้าชาวฟิลิปปินส์ผู้นิยมใช้รถประเภทนี้ได้เริ่มจับจองเป็นเจ้าของได้ตั้งแต่วันนี้ โดยจะเริ่มต้นการส่งมอบตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 เป็นต้นไป สนนราคาเริ่มต้นที่ 1.499 ล้านเปโซตีเป็นเงินไทยคือกว่า 9 แสนบาท ถือว่าเรียกเสียงฮือฮาจากราคาอันย่อมเยาได้พอตัวเมื่อเทียบกับรถประเภทเดียวกันของค่ายอื่น

ส่วนกำหนดการคร่าวๆ ที่นิสสัน เทอร์ร่าจะได้โลดแล่นบนท้องถนนของประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ภายในปีงบประมาณนี้ (เม.ย.2561-มี.ค.2562) จะเป็นคิวของประเทศอินโดนีเซีย ประเทศไทย ก่อนจะทำตลาดในประเทศบรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม

“นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ พัฒนาต่อยอดจากความสำเร็จของนิสสัน เอสยูวี ที่ยาวนานกว่า 60 ปี เช่น นิสสัน เพโทร (Nissan Patrol) ได้รับความนิยมจากลูกค้ามากที่สุด โดยนิสสันได้ออกแบบให้ เทอร์ร่า ใหม่ มีความแข็งแกร่งรองรับทุกภารกิจการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างมั่นใจ ขณะเดียวกันยังช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถปลดปล่อยความจำเจ และออกผจญภัยได้อย่างเต็มที่ตามแนวคิดหลัก คือเอ็กเซปชั่นแนล เอเวอรี่เดย์ (Exceptional Everyday)” มร.อัชวานี กุปตา รองประธานอาวุโส กลุ่มธุรกิจโครงสร้างรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กของนิสสันกล่าว

มร.อัชวานีระบุถึงความพิเศษของรถยนต์รุ่นนี้ต่อไปว่า นิสสัน เทอร์ร่า คือการขับขี่ที่สะดวกสบายด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เหมาะสำหรับวิ่งทั้งเส้นทางบนถนน หรือออนโรด (on-road) และเส้นทางที่ไม่ใช่ถนน หรือออฟโรด (off-road) สมบูรณ์แบบด้วยระยะความสูงจากพื้นถึงท้องรถถึง 225 มม. ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายจากการขับขี่บนถนนขรุขระและเส้นทางที่ไม่ราบเรียบ รวมถึงในพื้นที่น้ำท่วม สำคัญอย่างยิ่งคือมีระบบเทคโนโลยีที่เรียกว่านิสสัน อินเทลลิเจนท์โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility) ที่นิสสันภูมิใจนำเสนอว่าเป็นจุดขาย เป็นความแตกต่าง และเป็นตัวช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกตื่นเต้นและมั่นใจมากขึ้น

เทคโนโลยีอัจฉริยะ “นิสสัน อินเทลลิเจนท์โมบิลิตี้” ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและมั่นใจ ประกอบด้วยระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning) ระบบเตือนจุดบอดกับจุดอับสายตา (Blind Spot Warning) และกล้องอัจฉริยะมองรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor) พร้อมระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหว (Moving Object Detection)

ที่สำคัญ นิสสัน เทอร์ร่า ยังเป็นรถเอสยูวีรุ่นแรกมาพร้อมกระจกมองหลังอัจฉริยะ (Smart Rear View Mirror) ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นทัศนวิสัยด้านหลังโดยไม่มีการบดบังในห้องโดยสารจากกล้องที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังของรถ

“นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ นับเป็นก้าวสำคัญล่าสุด เป็นสิ่งยืนยันที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของนิสสันที่จะนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อลูกค้าในภูมิภาคนี้ และเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินแผนงานระยะกลางของนิสสัน หรือนิสสัน มูฟ 2022 (Nissan M.O.V.E. 2022) สำหรับภูมิภาคนี้อีกด้วย” มร.ยูทากะ ซานาดะ รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียกล่าว

นอกเหนือจากพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง มีถึง 7 ที่นั่ง ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกสะดวกสบายแล้ว ยังมีฟังก์ชั่นการปรับและพับเบาะที่นั่งแถวที่สองพับเก็บได้แบบแบนราบ เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและการผจญภัยบนเส้นทางออฟโรดร่วมกับครอบครัวและเพื่อน

“ความชาญฉลาดในการออกแบบรถยนต์อเนกประสงค์ให้มีสมรรถนะสูง มีพื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขวางไม่เป็นรองใคร เทคโนโลยีอัจฉริยะภายใต้แนวคิดนิสสัน อินเทลลิเจนท์โมบิลิตี้ ทำให้ครอบครัวหรือเพื่อนฝูงร่วมเดินทางไปด้วยกันได้อย่างมั่นใจ” มร.วินเซนต์ วิจเนน ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียกล่าว

สรรพคุณอื่นๆ ที่น่าสนใจของเอสยูวีรุ่นนี้ คือ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ พัฒนาบนแชสซีส์อเนกประสงค์แบบขั้นบันได ทำให้ตัวถังเหนียวแน่นและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เหมาะกับการขับขี่บนทางแบบออฟโรด ระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบไฟว์-ลิงก์ คอยล์สปริง (five-link coil spring rear suspensionsystem) และเพลาหลังมั่นคงแข็งแรง สร้างความมั่นใจว่าความสะดวกสบายและความนุ่มนวล มาพร้อมกับความทนทานและความแข็งแกร่ง ในฟิลิปปินส์เครื่องยนต์ดีเซล YD25 มีสมรรถนะสูงสุด 190 แรงม้า 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดขนาด 450 นิวตันเมตร

ส่วนเทคโนโลยีความปลอดภัย มาพร้อมการควบคุมที่ดียิ่งขึ้นด้วยระบบ 4WD-DIFF หรือดิฟเฟอเรนเชียล-ล็อก 4 ล้อ และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist) รวมถึงระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control) ช่วยควบคุมความเร็วเมื่อขับขี่ลงในเส้นทางลาดชัน

“แม้มาช้า แต่มาแล้ว และเชื่อว่าจะมาแรง” น่าจะเป็นประโยคสรุปแทนความมั่นใจของชาวนิสสันที่มีต่อยนตรกรรมของพวกเขา “นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่” สำหรับสาวกเอสยูวีในประเทศไทยอดใจรออีกไม่นาน เดือนกรกฎาคมศกนี้ได้พิสูจน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image