ภารกิจสุดลับจับ ‘พรหมเมธี’ บิ๊กแป๊ะล่าข้ามโขง ส่องช่องตร.สากล สนธิสัญญาจับผู้ร้ายไทย-ลาว โอกาสวินหรือวืด!

จากกรณีทีมสืบสวนมือพระกาฬของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยก “ดรีมทีมสืบสวน” เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 36 ของผบ.ตร. และคณะ เปิดปฏิบัติการแกะรอยข้ามแดน เลาะตะเข็บชายแดนไทย ข้ามโขง สปป.ลาว แบบลับสุดยอด ตามจับกุม “พระพรหมเมธี” หรือ จำนงค์ เอี่ยมอินทรา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม หนึ่งในอดีตพระเถระ ที่ถูกออกหมายจับในคดีทุจริตเงินทอนวัด ซึ่งเป็นเพียงรูปเดียวที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

รายงานข่าวจากชุดสืบสวนสอบสวนทั้งในพื้นที่ และส่วนกลาง รายงานพ้องกันว่า การสืบสวนของทีมงาน “บิ๊กแป๊ะ” กำลังติดตามจับกุม “พระจำนงค์” หลังสืบพบว่า มีกลุ่มศิษย์ โดยโฟกัสที่กลุ่มสีกาพาหนีข้ามแดนจาก จ.นครพนม ข้ามไป สปป.ลาว ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหาของ พระจำนงค์ ตั้งหลักปักฐานที่นั่น แจ้งพิกัดกบดานเบื้องต้น ที่แขวงคำม่วน ประเทศลาว และขยับไปทางตอนเหนือ คือเวียงจันทน์ ขณะที่การข่าวประเมินว่า เป็นไปได้ที่พระจำนงค์ จะข้ามแดนต่อไปยังประเทศกัมพูชา หรือเวียดนามที่อยู่ถัดออกไป

ที่ผ่านมากรณีสืบทราบว่า “ผู้ต้องหา” อยู่ต่างประเทศ ออกนอกราชอาณาจักรไทย ตามกระบวนการแล้ว ตำรวจไทยสามารถกดดันติดตามตัวได้หลายวิธี

การประสานกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อ “ยกเลิกหนังสือเดินทาง” เป็นหนึ่งในการกดดัน เพื่อติดตามตัวผู้ต้องหา

ขณะที่อีกช่องทาง คือการประสานงานผ่าน “ตำรวจสากล”

Advertisement

อดีตตำรวจสากลประจำประเทศไทย เคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการติดตามตัวผู้ต้องหาที่เผ่นข้ามประเทศ ไว้ว่า กรณีไม่สามารถยืนยันได้ว่าอยู่ที่ไหนทางตำรวจสากลประเทศไทยต้องประสานไปยังองค์การตำรวจสากลเพื่อขอให้ออกหมายน้ำเงิน เพื่อให้ตำรวจสากลกว่า 192 ประเทศสมาชิก ช่วยกันตรวจสอบหาตัว หากพบตัว จะเป็นกระบวนการที่ประสานงานกันต่อไปว่าทางการไทยจะให้ดำเนินการอย่างไร จะให้ส่งตัวหรือให้ประเทศนั้นผลักดันออก

“อีกกระบวนการหนึ่งที่ตำรวจสากลสามารถทำได้กรณีพบผู้ต้องหา อยู่ที่ประเทศใดอย่างชัดเจน สามารถขอหมายแดงเป็นหมายจับตำรวจสากล โดยต้องเข้าเงื่อนไข 1.เป็นคดีอาญา 2.พนักงานสอบสวนและอัยการสั่งฟ้องแล้ว 3.ออกหมายจับแล้ว และ4.อัยการทำเรื่องขอผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว โดยทันทีที่อัยการส่งเรื่องขอผู้ร้ายข้ามแดนไปที่ประเทศใดประเทศหนึ่งก็จะต้องส่งเรื่องมาที่ตำรวจสากลด้วย เพื่อดำเนินการออกหมายแดงคู่ขนานกัน”

“ทั้งนี้การขอหมายแดงจะได้รับการปฏิเสธก็ต่อเมื่อเป็นคดีการเมือง การทหาร ศาสนา และความเชื่อ ”

Advertisement

อย่างไรก็ตาม กรณี ของพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีเงินทอนวัดจะเข้าคุณสมบัติ ออกหมายโดยตำรวจสากลได้หรือไม่ เป็นดุลพินิจ

ยกตัวอย่างล่าสุดกรณีที่ตำรวจไทยขอออกหมายจับตำรวจสากล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีไม่ฟังคำตัดสินในคดีรับจำนำข้าว ตำรวจสากลตีความเป็นเรื่องการเมือง ไม่ออกหมายจับให้!!

จากการตรวจสอบข้อมูลตำรวจสากล พบว่า ทั้ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) กัมพูชา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ล้วนเป็นสมาชิกประเทศของ ตำรวจสากล ดังนั้นโอกาสการกระสานผ่านตำรวจสากลเป็นไปได้ในหลักการอยู่แล้ว ทว่า ทั้ง 3 ประเทศและไทย เป็นกลุ่มประเทศ “ตำรวจอาเซียน”บ้านพี่เมืองน้อง เพราะฉะนั้นสายสัมพันธ์และความร่วมมือยิ่งแน่นแฟ้น !!?

ตรวจสอบข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัพเดทล่าสุด เมื่อเดือนเมษายน 2561 ว่าด้วยสนธิสัญญาของชาติต่างๆ กับประเทศไทย ใน 3 หัวข้อ คือ 1. การโอนตัวนักโทษ 2.การส่งผู้ร้ายข้ามแดน และ 3.ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางอาญา พบว่า
ไทย กับ สปป.ลาว มีสนธิสัญญาร่วมกัน เพียง 2 หัวข้อ คือ การโอนตัวนักโทษ มีผลตั้งแต่ 19 ธันวาคม 2550 และการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ที่มีผลตั้งแต่ 1 มีนาคม 2544 ไม่มีสัญญาในข้อ 3
ไทย กับ กัมพูชา ก็เช่นกันมีสนธิสัญญาร่วมกัน เพียง 2 หัวข้อ คือ การโอนตัวนักโทษ มีผลตั้งแต่ 24 สิงหาคม 2552 และการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ที่มีผลตั้งแต่ 31 มีนาคม 2544
ขณะที่ ไทย กับ เวียดนาม มีเพียงสนธิสัญญาเดียว คือ คือการโอนตัวนักโทษ ที่มีผลตั้งแต่ 19 กรกฎาคม 2553เท่านั้น

เหล่านี้เป็นข้อมูลช่องทางอย่างเป็นทางการ ส่องโอกาส -อุปสรรค ความเป็นไปได้ ในการได้ตัว อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงฯมาดำเนินคดี

อย่างไรก็ตามกระบวนการตามจับ “พระพรหมเมธี” กำลังเดินหน้าอย่างเข้มข้นทุกช่องทาง มี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ประสานนำทัพด้วยตัวเอง โดยไม่มีนายตำรวจคนใด ปริปากแพร่งพรายข้อมูลถึงปฏิบัติการสำคัญครั้งนี้ เป็นภารกิจ ว.5 ลับสุดยอด สำคัญที่สุด ?!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image