จับโจ๋ 17 เป็นแม่เล้าลวงสาวไม่ถึง 18 ปี ค้ากามต่างชาติ ตร.บุกช่วย เอาผิดค้ามนุษย์

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ตำรวจท่องเที่ยว, ตำรวจ 191, บก.ปคม., นักจิตวิทยา แถลงข่าวการจับกุมดำเนินคดีความผิดเรื่องค้ามนุษย์ หลังผู้ต้องหานำเด็กผู้หญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าบริการทางเพศนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติย่านพัทยา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 คน คือ น.ส.บี อายุ 17 ปี แม่เล้า และผู้ซื้อบริการชาวอินเดีย 1 ราย

ทั้งนี้ สืบสวนทราบว่า น.ส.บี อายุ 17 ปี ได้ชักชวน ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กและได้ชักชวนไปเที่ยวที่พัทยา โดยให้พักอาศัยร่วมกับเด็กและผู้ใหญ่อีกหลายคนในโรงแรมแห่งหนึ่ง จากนั้นได้พาไปรับแขกต่างชาติชาวอินเดีย โดยรับเงินมา 5,000 บาท แบ่งให้ ด.ญ.เอ 4,000 บาท โดย น.ส.บี รับเงิน 1,000 บาท ต่อมา ด.ญ.เอ ได้หลบหนีกลับไปบ้านที่ จ.อุบลราชธานี ก่อนที่ น.ส.บี จะตามไปที่บ้านและอ้างว่า ด.ญ.เอ ขโมยเงินและต้องการให้กลับไปทำงานที่พัทยา แต่ครอบครัวไม่ยอมและได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.บี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลและเข้าช่วยเหลือเหยื่อได้ 4 ราย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า จากการสัมภาษณ์คัดแยกพบเข้าข่ายกระทำผิดค้ามนุษย์ 1 ราย ส่วนอีก 2 ราย ไม่เข้าข่าย จึงได้ส่งให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดูแล และอีก 1 ราย คือ น.ส.บี ทำหน้าที่เป็นแม่เล้าตกเป็นผู้ต้องหาถูกดำเนินคดี ฐานกระทำการค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี ซึ่งเป็นการกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม เป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี และข้อหาอื่นๆ รวม 6 ข้อหา และดำเนินคดี MR.PARMOD KUMAR สัญชาติอินเดีย ชาวต่างชาติที่ร่วมประเวณีกับ ด.ญ.เอ รวม 3 ข้อหา คือ พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

เบื้องต้น ตำรวจ ปคม.ได้จัดพนักงานสอบสวนหญิงร่วมกับนักจิตวิทยาสอบปากคำ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่อย่างไรก็ตามแม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธแต่ตำรวจมีพยานหลักฐานในการดำเนินคดีอย่างแน่นอน

Advertisement

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวยืนยันว่า ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาจริงกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะเว็บไซต์สื่อลามกอนาจารต่างๆ มีการสั่งปิดไปแล้วกว่า 700 เว็บไซต์ และอยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของเว็บไซต์และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image