ผู้เขียน | นายด่าน |
---|
ยังคงเดินหน้าปราบปรามทุจริตในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) อย่างต่อเนื่อง กับท่าทีล่าสุดของ “หมอธี” นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ที่ออกมาประกาศเปรี้ยงว่าในวันนี้ (5 มิถุนายน) จะเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณจัดซื้อครุภัณฑ์ฝึกทักษะมัธยมศึกษาตอนต้น 458 โรงเรียน รวม 279 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าอาจจะมีการล็อกสเปกหรือไม่
โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์ฝึกทักษะมัธยมศึกษาตอนต้น จัดสรรให้กับโรงเรียนส่วนใหญ่ทางภาคอีสาน โครงการนี้อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ “สพฐ.” หน่วยงานใน ศธ.ที่ได้รับงบประมาณมากสุดปีละไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท
การออกมาประกาศกร้าวของ “หมอธี” เป็นการยืนยันกระแสข่าวที่ว่ามี “ระดับบิ๊ก สพฐ.” เชื่อมโยงกับขบวนการกินหัวคิวงบประมาณที่จะจัดสรรไปให้กับโรงเรียน
แหล่งข่าววงในยืนยันว่ามีการจัดสรรปันส่วนผลประโยชน์กันสูงถึง 25% ของงบที่จัดสรรไปให้โรงเรียนแห่งละ 6 แสนบาท โดยบิ๊กในส่วนกลางได้รับ 10% ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา 10% และอีก 5% เป็นของคนกลาง ที่ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างบริษัทเอกชนชื่อ “ส” รายใหญ่แห่งหนึ่งใน ”จ.ยโสธร” กับเขตพื้นที่การศึกษา
ขบวนการนี้ไม่ได้มีความซับซ้อนมากมาย มีลักษณะคล้ายกับการทุจริตที่ผ่านๆ มาของ ศธ.หรือส่วนราชการอื่นๆ เริ่มจากการกำหนดสเปกที่เอื้อให้กับเอกชนรายนี้ ในขณะที่เขตพื้นที่การศึกษาจะใช้เทคนิคให้โรงเรียนจัดซื้อรวมเป็นกลุ่มโรงเรียน มีคนกลางเป็นผู้ประสานงานอำนวยความสะดวกให้
โดยในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างนั้นจะมีการจ่ายเงินเต็มจำนวนแก่เอกชนตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร แต่จะมีการคืนส่วนต่างให้ 25%
ขบวนการเหล่านี้มีการวางแผนพูดคุยกันล่วงหน้านานหลายเดือน อาจจะก่อนหรือหลังจากที่งบประมาณผ่านการอนุมัติจาก “สนช.” ในปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันงบประมาณส่วนนี้มีการเซ็นอนุมัติไปแล้ว แต่มีการโอนงบประมาณไปยังโรงเรียนเพียงบางส่วน เมื่อ ศธ.ตรวจพบความไม่ชอบมาพากล อาจนำไปสู่การสั่งชะลอการโอนงบไปยังโรงเรียน
การเข้ามาตรวจสอบการทุจริตในโครงการนี้ของ“หมอธี” ถือเป็นเรื่องดีที่จะเป็นการช่วยตัดวงจรอุบาทว์ที่หากินกับแวดวงการศึกษา และมีความคาดหวังว่าการตรวจสอบจะสาวไปถึง “ระดับบิ๊ก” ตัวจริงที่โยงใยอยู่เบื้องหลัง