จูดี้ เพอร์กินส์ หญิงชาวอเมริกันผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย ซึ่งแพทย์ระบุว่าจะอยู่ได้อีกเพียงไม่กี่เดือนหลังการรักษาด้วยเคมีบำบัดไม่ได้ผล เข้ารับการรักษาแบบใหม่ที่เรียกว่า”immunotherapy” หรือ ภูมิคุ้มกันบำบัดจนมะเร็งหายขาดได้เป็นผลสำเร็จ
รายงานกรณีดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของวงการแพทย์ เผยแพร่ในวารสารเนเจอร์เมดิซิน โดยพบว่าเซลล์มะเร็งในร่างกายของเพอร์กินส์ถูกทำลายจนหมด หลังจากแพทย์ใช้วิธีทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันหรือ ที-เซลล์ ในร่างกายของตัวเองเป็นเซลล์นักฆ่าที่ออกค้นหาและทำลายเซลล์มะเร็ง
ผู้ป่วยรายดังกล่าวมีชื่อว่าจูดี เพอร์กินส์ ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่เคยตัดเต้านมด้านซ้ายทิ้งไป โดยใช้ชีวิต 10 ปีโดยไม่มีโรคมะเร็งจนกระทั่งในปี 2013 มะเร็งกลับมาอีกครั้งหนึ่ง และไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั้งแบบฮอร์โมนบำขัด และเคมีบำบัด โดยครั้งนี้มะเร็งยังลามไปถึงตับและเต้านมด้านขวาด้วย
หลังจานั้นเพอร์กินส์ ได้เข้ารับการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด ด้วยวิธีการนำภูมิคุ้มกันที่เคยต่อสู้กับมะเร็งมาเพิ่มจำนวนขึ้นหลายพันล้านเซลล์ โดยนักวิทยาศาสตร์นำภูมิคุ้มกันของจูดี ออกไปทั้งหมดก่อนนำเซลล์ภูมิคุ้มกันกองทัพนักฆ่าฉีดเข้าร่างกายเข้าไปแทน
ผลปรากฏว่ามะเร็งที่เต้านมของจูดีลดขนาดลงถึง 60 เปอร์เซ็นต์จากการแสกนในครั้งแรกหลังการบำบัด โดยแพทย์ระบุว่าการตอบสนองต่อการรักษาในระดับดังกล่าวหมายถึงกำลังจะเดินหน้าไปสู่การหายขาดจากโรคมะเร็ง
ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการรักษาด้วยวิธีการดังกล่าวนั้นจำเป็นที่จะต้องได้รับการศึกษาและวิจัยเพิ่มเติมอีกก่อนที่จะนำไปใช้รักษากับผู้ป่วยจริงในอนาคต
