‘หนุ่มเมืองผู้ดี’ทำโน้ตบุ๊กหายแต่หัวหมอแจ้งความว่าถูกชายไทย3คนปล้นทรัพย์-ตร.พบพิรุธสุดท้ายรับสารภาพ

เมื่อเวลา 20.00น. วันที่ 13 มิ.ย. 61 พ.ต.ท.วรงค์ ถาปนา สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว5 กองกำกับการ2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 ร่วมกับ ร.ต.อ.เทอดศักดิ์ ธวัชร์วรกุล รองสารวัตร ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย และตรวจคนเข้าเมืองเกาะสมุย นำตัวนายอาเดซานยา โอลามิเด โอโม ลาจา (Mr. Adesanya Olamide Omolaja) อายุ 35 ปี สัญชาติอังกฤษ ที่ตกเป็นผู้ต้องหานำตัวมาแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน หลังจากที่ไปแจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุยว่าถูกคนร้ายเป็นชายไทย 3 คนปล้นทรัพย์ได้ทรัพย์สินไป

โดยเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 61 เวลา 16.00น. นายอาเดซานยา นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุยว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 61 ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากโรงแรมที่พักโดยลำพัง ในพื้นที่ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย เพื่อท่องเที่ยวบนเกาะสมุย พร้อมได้สะพายกระเป๋าสีดำภายในทีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจำนวน 1 เครื่องไปด้วย ต่อมาเวลา 22.30น. ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับโรงแรมที่พัก ได้จอดรถจักรยานยนต์ถ่ายรูปบ้านหลังหนึ่ง บริเวณบ้านหัวถนน ต.มะเร็ต ทันใดนั้นได้มีชายไทย 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คันได้จอดรถแล้วเดินมาหาตน ชายคนหนึ่งชักมีดออกมาแล้วพูดอะไรบางอย่าง นายอาเดซานยาได้เกิดความกลัวจึงได้เอากระเป๋าสะพายสีดำที่ตัวเองสะพายอยู่ให้กับชายคนนั้นไป และชาย 3 คนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนนายอาเดซานยา ได้เดินทางกลับที่พักในเวลา 24.00น.

จากเหตุการณ์ที่เล่ามานั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพบพิรุธหลายอย่าง จึงได้ให้ชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย ร่วมกับตรวจคนเข้าเมืองเกาะสมุย ออกสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนพบว่าข้อมูลจากกล้องวงจรปิดจากโรงแรมที่พักของนายอาเดซานยา ไม่ได้เป็นไปตามที่ได้กล่าวอ้าง เจ้าหน้าที่จึงได้นำภาพมาให้นายอาเดซานยา ดูจนยอมรับสารภาพต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเหตุการณ์ที่ไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ตนเพียงประสงค์เอกสารรับแจ้งของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแสดงต่อบริษัทฯที่ทำงานอยู่ เพื่อไม่ให้ต้องรับผิดชอบในทรัพย์สินที่ทำสูญหายไปคือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก

ในระหว่างการแถลงข่าว นายอาเดซานยา โอลามิเด โอโม ลาจา ผู้ต้องหาได้บอกว่า ตนเองทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อของสถานบันการเงินแห่งหนึ่งที่ประเทศอังกฤษ และได้ทำคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กหายก่อนเดินทางมาประเทศไทย จึงได้ปรึกษากับเพื่อนของตนเองที่ประเทศอังกฤษและได้รับคำแนะนำมาว่าให้ไปแจ้งความกับตำรวจไทยว่าถูกคนร้ายปล้นทรัพย์ไปแล้วเอาใบแจ้งความไปยื่นให้บริษัทฯที่ตนเองทำงานอยู่เพื่อที่จะได้ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ตอนนี้ได้สำนึกผิดและขอโทษประเทศไทย คนไทย และตำรวจไทย ที่มาสร้างเรื่องไม่ดีในประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังได้ฝากเตือนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆอย่างทำเป็นแบบอย่าง

Advertisement

ด้าน พ.ต.ท.วรงค์ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว5 บอกอีกว่า ขอเตือนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวประเทศไทย การแจ้งความเท็จเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วไปคิดว่าประเทศไทย และเกาะสมุย ไม่มีความปลอดภัย และยังกระทบต่อความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยด้วย ถ้าหากมีการพาดพิงและไปจับกุมผู้บริสุทธิ์จะกลายเป็นการทำลายสิทธิเสรีภาพของคนนั้นได้

ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายอาเดซานยา โอลามิเด โอโม ลาจา อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาชาวอังกฤษ ว่า “รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด และแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์ใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดควาเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมกันนี้ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และขึ้นบัญชีเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าราชอาณาจักรต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image