| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
กรมธนารักษ์เตรียมปรับค่าเช่าที่ราชพัสดุทั่วประเทศใหม่ ให้สะท้อนราคาที่ดินปัจจุบัน ยันยึดตามราคาประเมินปี 2559-2562 เล็งเพิ่มค่าเซ้งใช้พื้นที่เชิงพาณิชย์ 50-60% ของมูลค่าที่ดินและอาคาร จากปัจจุบันเก็บ 30-40% ชี้บางแห่งคิดต่ำเกินจริง แค่ ตร.ว.ละ 2 บาท/เดือน พร้อมเข้มงวดใช้ที่ดิน-อาคารผิดวัตถุประสงค์สัญญาเช่า
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์เตรียมปรับราคาค่าเช่ามาตรฐานที่ราชพัสดุทั่วประเทศใหม่ เพื่อให้สะท้อนราคาที่ดินในปัจจุบันให้มากขึ้น และจะยึดตามราคาประเมินที่ดินใหม่ที่กรมธนารักษ์เพิ่งประกาศใช้ สำหรับช่วงปี 2559-2562 ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เป็นทางการ หลังจากนั้นจะพิจารณาว่าอาคารนั้นเป็นการใช้เพื่อเชิงพาณิชย์หรืออยู่อาศัย เช่น กรณีใช้เพื่อเชิงพาณิชย์ ปัจจุบันคิดค่าแรกเข้า (เซ้ง) โดยคิด 30-40% ของมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงราคาประเมินใหม่ครั้งนี้ จะทำให้ราคาค่าเช่าที่ดินและอาคารเชิงพาณิชย์มีความเป็นจริงมากขึ้น เช่น หากคิดค่าเซ้งในสัดส่วน 30% ของมูลค่าที่ดินและอาคาร ยังเห็นว่าเป็นราคาค่าเช่าที่ต่ำกว่าราคาตลาดมาก ก็อาจขยับขึ้นเป็น 50-60% ค่าเช่าที่ดินและอาคารเชิงพาณิชย์บางแห่งราคาค่าเช่าต่ำกว่าราคาตลาดมาก เช่น กรณีค่าเช่าตลาดในจังหวัดสมุทรปราการ กรมคิดค่าเช่าในอัตราเพียง 2 บาท/เดือน/ตร.ว.เท่านั้น
นายจักรกฤศฏิ์กล่าวว่า กรมยังจะเข้มงวดในเรื่องการใช้ประโยชน์ในที่ดินและอาคารเช่าว่ามีการใช้ตามวัตถุประสงค์ของสัญญาเช่าหรือไม่ เช่น ระบุในสัญญาเช่าเป็นที่อยู่อาศัย แต่ใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือระบุเป็นที่ดินเพื่อการเกษตร แต่ก่อสร้างเป็นโรงแรมหรือรีสอร์ต ซึ่งอัตราค่าเช่า ของที่ดินและอาคารเพื่ออาศัย และการเกษตร ต่ำกว่าที่ดินเชิงพาณิชย์ ทำให้กรมเสียประโยชน์ ซึ่งจากการประเมินสัญญาเช่ากว่าแสนสัญญา คาดว่าจะมีสัญญาเช่าที่ทำผิดสัญญาเช่า หรือไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามสัญญาหลายพันสัญญา
นายจักรกฤศฏิ์กล่าวว่า กรณีผู้บุกรุกที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์นั้น กรมจะดำเนินการให้เข้ามาเป็นผู้เช่าที่ดินราชพัสดุของกรม ตามแนวทางของสวนผึ้งโมเดล ซึ่งพบว่ามีการบุกรุกที่ราชพัสดุจำนวนมาก การแก้ไขคือ นำผู้บุกรุกกลับมาเป็นผู้เช่าที่กับกรม ซึ่งทำให้กรมมีรายได้จากค่าเช่า จากก่อนหน้านี้ที่ไม่มีรายได้จากที่บุกรุกดังกล่าว นอกจากสวนผึ้งแล้วยังมีที่ดินราชพัสดุในจังหวัด และเกาะที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ถูกบุกรุก เช่น ที่เกาะเสม็ด เกาะแสมสาร และปากช่อง นครราชสีมา เป็นต้น
นายจักรกฤศฏิ์กล่าวว่า การพัฒนาที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์เป็นหนึ่งในแผน 5 ด้าน ในการบริหารจัดการที่ราชพัสดุ ประกอบด้วย ด้านเศรษฐกิจ (พัฒนาเชิงพาณิชย์) ด้านสังคม ด้านท่องเที่ยว ด้านการอนุรักษ์ และด้านศูนย์ราชการ โดยการพัฒนาด้านเศรษฐกิจหรือเชิงพาณิชย์ กรมมีเป้าหมายจะเพิ่มมูลค่าและรายได้ สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน และกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งจะพัฒนาโครงการรวม 134 โครงการ เนื้อที่ 8.8 พันไร่ มูลค่ารวม 3.2 แสนล้านบาท คาดรายได้รวม 5.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น โครงการใหม่ 120 โครงการ (โครงการขนาดเล็ก 114 โครงการ) มูลค่า 2.8 แสนล้านบาท รายได้ 3.4 หมื่นล้านบาท โครงการเก่าผ่านการบริหารสัญญา 14 โครงการ มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท คาดรายได้ 1.9 หมื่นล้านบาท
