ณัฐวุฒิ ชี้ กม.รอการลงโทษ ประหลาด จัดคดียึดสนามบิน รวมกับคดีเล็กน้อย

“ณัฐวุฒิ” ถาม กม.รอการลงโทษเจตนาช่วยเหลือกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดหรือไม่ ย้ำ พร้อมสู้ทุกคดี

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวว่า ไม่ทราบว่าสปท.ไปคุยกันอย่างไรถึงได้ข้อสรุปมาเป็นกฎหมายรอการลงโทษ แต่คิดว่ายังไม่ต้องตื่นเต้นอะไรมาก หากผู้มีอำนาจส่งสัญญาณไม่เอาด้วยทุกอย่างก็จะจบไปเหมือนหลายข้อเสนอที่ออกมาจากเเม่น้ำ 5 สายก่อนหน้านี้ สิ่งที่นายเสรีและคณะควรทำเพื่อเพิ่มน้ำหนักของเรื่องนี้ คือ เข้าพบและนำเสนอแนวคิดต่อผู้มีอำนาจตัวจริงให้แสดงท่าทีขานรับเสียก่อนแล้วค่อยเดินหน้าอธิบายกับสังคม อย่างไรก็ตาม หากดูวิธีคิดในการจัดหมวดหมู่ของคดีจะเห็นความแปลกประหลาด เช่น เอากรณียึดสนามบินซึ่งเป็นความผิดก่อการร้ายชัดเจนตามพ.ร.บ.การบินมาอยู่กลุ่มเดียวกับการปิดสี่แยกแล้วระบุว่าเป็นความผิดเล็กน้อย ลักษณะแบบนี้อาจถูกมองได้ว่าเจตนาช่วยเหลือกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดหรือไม่ และยังต้องตรวจสอบด้วยว่า คนในสปท.และแม่น้ำ 5 สายมีใครเป็นผู้ต้องหาคดีดังกล่าวอยู่บ้าง การประกาศกฎหมายนี้เท่ากับนิรโทษกรรมตัวเองเหมือนที่เคยต่อต้านหรือไม่

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวไม่ขัดขวางการพยายามสร้างความปรองดอง แต่อยากให้ทุกอย่างยืนอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง จะมาพูดเรื่องนิรโทษกรรมอะไรกันตอนนี้ ในเมื่อรัฐบาลยังไล่แจกข้อหาให้คนเห็นต่างอยู่เนืองๆ เรื่องที่ควรพูดคือ เรียกร้องหลักนิติธรรมในการบังคับใช้กฎหมาย และสร้างบรรยากาศสิทธิเสรีภาพ เพื่อนำประเทศคืนสู่ประชาธิปไตย ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความปรองดองที่ทั่วโลกทำกัน ไม่ใช่เอาอำนาจพิเศษของคณะรัฐประหารมาบังคับ

“ผมพร้อมต่อสู้ทุกคดีตามกระบวนการยุติธรรม แต่สิ่งที่กังวลคือ ดูเหมือนคนในแม่น้ำ 5 สายเข้าใจกันไปเองว่า กลุ่มการเมืองทุกฝ่ายคือตัวปัญหา ส่วนพวกตนซึ่งจำนวนมากก็อวตารมาจากเวทีชุมนุมตั้งแต่ปี 2548 คือคนแก้ปัญหา จึงอยากชี้ให้เห็นความจริงว่า ปัญหาใหญ่เรื่องหนึ่งของสังคมไทยคือการรัฐประหาร และตลอดสิบปีของความขัดแย้ง คนที่มีแต่ได้อำนาจและผลประโยชน์โดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยมีกลุ่มเดียวคือ คนที่ทำงานให้คณะรัฐประหาร” นายณัฐวุฒิ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image