ต้องยอมรับว่า “ข่าว”เชิง”วิเคราะห์” อัน “ปล่อย”ออกมาจากคสช.ล่าสุด
เฉียบ และ คม
เฉียบเพราะคสช.ประเมินว่า มีความเคลื่อนไหวมาต่อเนื่องตั้งแต่คู่พ่อ ลูก นายวัฒนา เมืองสุข กับ น.ส.วีรดา เมืองสุข
มาตอนนี้เป็นคู่”แม่ ลูก”
น.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ “แม่” กับ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว “ลูก”
พลาง”คสช.”สรุปอย่างรวบรัดว่า
“นี่เป็นแผนที่เขาได้วางกันมาแล้ว เป็นขั้นตอน เป็นซีรีส์ ดังนั้น ประชาชนอย่าได้หลงตามแผนของเขาในการปลุกกระแส”
หากกรณีของ นายวัฒนา เมืองสุข กับ น.ส.วีรดา เมืองสุข เป็นแผน หากกรณีของ น.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ กับ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ เป็นแผน
ถามว่ากรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเป็น”แผน”หรือไม่
ต้องยอมรับว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แม้จะพ้นจากตำแหน่ง”นายก รัฐมนตรี”ไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 แล้ว
แต่ก็ยัง “เคลื่อนไหว”
เห็นได้จากการเคลื่อนไหวไปทำบุญ ไหว้พระ ตามวัดวาอารามต่างๆอย่างต่อเนื่อง
ไม่เดินทางเฉยๆ หากยังมีการ”โพสต์”
เห็นได้จากการเคลื่อนไหวไป “ช้อปปิ้ง” และรับประทานอาหารตามย่านการค้าและร้านต่างๆอย่างต่อเนื่อง
ไม่ไปเฉยๆ หากแต่ยังมีการ”โพสต์”
เห็นได้จากการเปิดบ้าน “โชว์” กิจกรรมในการทำสวนครู ผักปลอดสารพิษให้กับนักข่าวทั้งในและต่างประเทศดู
ไม่เปิดบ้านเฉยๆหากแต่ยังมีการ”โพสต์”
ยิ่งล่าสุดยื่งจะดำเนินไปในลักษณะอันเป็น “ซีรีส์” หลายช่วงหลายตอน
โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม
เท่าที่ปรากฏผ่านสื่อหนังสือพิมพ์บางฉบับ โพสต์ 1 เป็นพืชผักสวนครัวที่ปลูกรอบบ้าน
พร้อมข้อความ
“หน้าแล้งแบบนี้หากใครพอมีพื้นที่ก็สามารถหันมาปลูกผักสวนครัวรับประทานเองที่บ้านได้”
ทั้งยังปรากฏ “ข้อความ”
“ขอแสดงความยินดีกับจังหวัดที่ได้รับการ”กดไลค์”ด้วยผลโหวตสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กาฬสินธุ์ บึงกาฬ แพร่ ในโครง การ “5 เหตุผลที่นายกฯยิ่งลักษณ์ต้องมาจังหวัดฉัน” แล้วเตรียมพบกันเร็วๆนี้นะคะ”
หากเป็น “แผน” ก็เป็นแผนเข้าหา “มวลชน”
หากเป็น “ซีรีส์” ก็เป็นซีรีส์ที่ยาวจากกาฬสินธุ์ บึงกาฬ ไปยังแพร่
“คสช.”ไม่สนใจ”ติดตาม”หรือ
