สังคมที่ข้อมูลข่าวสารท่วมท้น โลกโซเชียลซึ่งเป็นโลกเสมือนจริงทับซ้อนกับโลกความจริงมากยิ่งขึ้นมีผลต่อพฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ถูกนำไปวิเคราะห์เพื่อผลประโยชน์ในหลายช่องทาง ล่าสุดเอ็นไวโรเซล (ประเทศไทย) ที่ปรึกษาด้านพฤติกรรมและจิตวิทยาผู้บริโภคถึงแนวโน้มผู้บริโภคปี 2016 ในยุคดราม่าที่ สามารถแบ่งพฤติกรรมผู้บริโภคออกเป็นค่านิยม 6 ข้อด้วยกัน คือ สุขนิยม (JoyLust) แบบฉบับนิยม (I-mage) สันโดษนิยม (Sole-cial) ธรรมชาตินิยม (Farm-ganic) ดราม่านิยม (Dramaqueen) และอัตโนมัตินิยม (Automatism)
ส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้คนมาจากการเติบโตของเทคโนโลยี สังคมดิจิตอลทั้งหลาย ทำให้คนเราไม่ต้องลำบากเหมือนคนในยุคก่อน งานวิจัยพบว่าผู้บริโภคที่ติดโซเชียลมีเดียจะมีความสุขน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้เล่นถึง 39%
นอกจากนี้ งานวิจัยในหมู่วัยรุ่น พบว่า 1 ใน 2 ยอมรับว่าตนเองมีปัญหา mental illness หรืออาการป่วยทางจิต โดย 95% ตอบว่าเป็นเพราะความเครียด โดยความเครียดเรื่องภาพลักษณ์มาเป็นอันดับ 1 ในขณะที่ความเครียดเรื่องความสามารถและสติปัญญาที่ด้อยกว่า กลับตามมาห่างๆ เป็นอันดับ 2 และ 3 จึงเห็นชัดว่าการที่คนเราติดสร้างภาพลักษณ์ทำให้เกิดความเครียดง่ายเป็นพิเศษ
ผู้บริโภคยุคนี้โหยหาความสุข และใช้ความสุขเป็นตัวตั้งในการค้นหาความหมายของชีวิต ทำให้ผู้บริโภคปี 2016 จะใช้ความสุขของตัวเองเป็นตัวตั้ง อะไรไม่มีความสุข จะไม่ทำ เรื่องอื่นไม่สน และจะไม่มีวันทำงานหนัก ตั้งตาใช้ชีวิตเพื่อหาความสุขลูกเดียว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และบริการก็จะต้องมั่นใจว่าซื้อแล้วมันมีความหมายต่อชีวิตอย่างไร สร้างความสุขอย่างไรให้ชีวิต
นอกจากนี้ปัจจุบันคนเราเวลามากขึ้นกว่าเดิม เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทำให้มีเวลาว่างมากจนชอบสอดส่องในโซเชียลมีเดีย สนใจเรื่องราวของผู้อื่น แล้วก็รับรู้เรื่องราวของคนอื่นมากมาย จนรู้สึกว่าตนเองไม่มีเวลา
เห็นได้จากอัตราการใช้โซเชียลมีเดียถึง 4 ชม.โดยเฉลี่ยต่อวัน เป็นที่มาของการเสพติดดราม่า และโดยเฉพาะโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นช่องทางที่เปิดโอกาสให้มนุษย์ได้พูด ได้แสดงออกอย่างเสรี
เพราะฉะนั้น ผู้บริโภคไม่ได้เสพข้อมูลหรือคอนเทนต์เพียงด้านเดียวอีกต่อไป แต่จะเสพคอนเทนต์ที่มีดราม่าผสม หรือ emotional content ผู้คนในปี 2016 จะมีพัฒนาการเรื่องเอาแต่ใจตัวเองเพิ่มมากขึ้น นิยามชนชั้นด้วยไลฟ์สไตล์ ในรูปแบบ emotional ผู้บริโภคในปี 2016 จึงไม่เสพข่าวสารหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มีการสร้างความมีส่วนร่วมด้านอารมณ์ร่วม
