วันที่ 22 มิถุนายน เมื่อเวลา 09.30 น. พล.ต.ทวีศักดิ์ วินิจสร ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 35 เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายอำเภอ หัวหน้าสถานีตำรวจ ใน 8 อำเภอของจ.แพร่ เข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมอาคารอำนวยการ หน่วยทหารค่ายพระยาไชยบูรณ์ กองพันทหารม้าที่ 12 อ.เด่นชัย จ.แพร่ โดยพล.ต.ทวีศักดิ์ ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม ซึ่งมีนายนิพันธ์ บุญหลง รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ไปแทนนายพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ที่ติดภารกิจ โดยการประชุมไม่เปิดให้สื่อมวลชนเข้าฟังตลอดในการประชุม
รายงานระบุว่า เนื้อหาสาระของการพูดคุย พล.ต.ทวีศักดิ์ กล่าวในที่ประชุมว่า เรื่องที่จะต้องขอร้องให้เร่งดำเนินการมีอยู่ 2 เรื่อง คือ 1.วิกฤตเรื่องน้ำแล้ง สภาวะภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ต้องเร่งดำเนินการพร้อมๆ กันทั้งจ.แพร่ จ.น่าน คือการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมป่าไม้ และแหล่งน้ำ โดยจะเร่งให้มีการสำรวจแหล่งน้ำเพื่อทำฝายขนาดใหญ่ และฝายขนาดเล็กให้มากที่สุด โดยให้ฟังเสียงประชาชนที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาแหล่งน้ำ ที่ฝ่ายทหารจะเป็นผู้นำเครื่องจักรเข้าไปช่วย ส่วนอีกเรื่องที่สำคัญมากคือเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยเน้นหนักให้มีการทำงานร่วมกันที่มีเป้าหมายทำให้ประชาชนมาใช้สิทธิ์ให้มากที่สุด ซึ่งต้องเร่งการประชาสัมพันธ์ให้รับทราบอย่างทั่วถึง และ ที่สำคัญในบัญชีทะเบียนราษฎร์ ที่เจ้าหน้าที่ปกครองดูแลอยู่ ต้องเร่งสำรวจว่ารายชื่อประชาชนเหล่านั้นมีอยู่จริงเท่าไหร่ รายชื่อแฝงที่ไม่อยู่จริงให้ตัดมาเป็นทะเบียนกลาง เพื่อเป็นการให้เห็นตัวเลขชัดเจนในการลงคะแนนประชามติ ซึ่งถ้าทำได้ต้องให้ประชาชนมาใช้สิทธิ์ให้มากที่สุด ส่วนของการลงประชามติอย่างไรนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของประชาชนที่จะออกเสียง ห้ามไปชี้นำเพียงแต่ให้มีการจัดระบบและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งเวลายังมีเพียงพอในการทำงาน
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ทวีศักดิ์ กล่าวด้วยว่า หลังการประชุมจะมีการเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมหารือที่โรงแรมนครแพร่ทาวเวอร์เป็นการขอความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบทั้งเนื้อหาของรัฐธรรมนูญและการเชิญชวนให้ออกมาใช้สิทธิ์กันมากๆ
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสต้านรัฐธรรมนูญในจ.แพร่ยังคงมีอยู่บ้าง เจ้าหน้าที่พบว่า ที่บ้านปากพวก ต.เด่นชัย อ.เด่นชัย ยังมีแกนนำชาวบ้านบางคนยังพยายามติดป้ายศูนย์ปราบโกงประชามติของกลุ่ม นปช. ซึ่งบ่งชี้ว่ากระบวนการสร้างปัญหาทางการเมืองยังคุกรุ่นในจ.แพร่ ซึ่งกลุ่มดังกล่าวยังคงเคลื่อนไหว ทั้งใน ต.ปงป่าหวาย ต.ห้วยไร่ ต.แม่จั๊วะ ต.เด่นชัย และ ต.ไทรย้อย ซึ่งหน่วยข่าวของทางราชการกำลังจับตาเป็นพิเศษ
