วันที่ 2 กรกฎาคม เมื่อเวลา 11.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงรับซื้อหอยเชอรี่ บ้านดงบัง หมู่ที่ 1 ต.ศรีสำราญ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ได้กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากซบเซาในช่วงหน้าแล้ง เมื่อย่างเข้าสู่หน้าฝนทำให้มีฝนตกลงมาตามแหล่งน้ำ ลำคลอง ห้วยหนอง ส่งผลให้หอยเชอรี่ที่ซุกตัวอยู่ใต้พื้นดินในลำคลองและท้องทุ่งนา กลับมามีจำนวนมากอีกครั้ง ชาวบ้านได้เก็บมาต้มแกะเอาเนื้อหอยส่งขายโรงรับซื้อ ส่งผลให้มีเนื้อหอยเชอรี่ส่งขายไปยังตลาดต่างจังหวัดทางภาคกลาง โดยเฉพาะตลาดสี่มุมเมือง ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้า มาซื้อเพื่อนำเนื้อหอยเชอรี่ไปประกอบอาหารในเมนูต่างๆ เช่น ก้อยหอยเชอรี่ ซึ่งเป็นที่นิยมรับประทานของชาวอีสาน และร้านส้มตำ นำเนื้อหอยเชอรี่ไปตำใส่ตำซั่วและตำป่า
นายแสงสุวรรณ ไขบรรเทา อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 36 หมู่ที่ 1 บ้านดงบัง ต.ศรีสำราญ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ เจ้าของโรงรับซื้อหอยเชอรี่ บอกว่า ในช่วงหน้าแล้งที่ผ่านมา โรงรับซื้อหอยของตนต้องซบเซาเนื่องจากไม่มีหอยเชอรี่ให้ชาวบ้านได้เก็บมาขาย แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนทำให้มีน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ หอยเชอรี่ก็กลับมีเต็มทั่วท้องนาอีกครั้ง ทำให้ชาวบ้านสามารถเก็บหอยมาขายได้ โดยมีราคารับซื้อหอยเชอรี่สดที่ยังไม่ต้มแกะเนื้อ รับซื้อกิโลกรัมละ 7 บาท หอยเชอรี่ที่ต้มแกะเนื้อแล้วรับซื้อกิโลกรัมละ 70 บาท ซึ่งขณะนี้มีชาวบ้านได้นำเนื้อหอยเชอรี่มาขายมีจำนวนวันละประมาณ 500-600 กิโลกรัมต่อวัน ส่งผลให้มีเนื้อหอยเชอรี่ส่งขายไปยังตลาดสี่มุมเมือง และจังหวัดระยอง โดยจะนำเนื้อหอยบรรจุถุงละ 10 กิโลกรัม เก็บไว้ในตู้แช่เย็น เมื่อครบ 1,500 กิโลกรัม ก็จะนำใส่รถปิกอัพส่งขายทางภาคกลาง และภาคตะวันออก อย่างไรก็ตาม หอยเชอรี่ถือเป็นศัตรูตัวร้ายของนาข้าว เพราะจะกัดกินต้นข้าวของชาวบ้าน แต่กลับสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งได้เป็นอย่างดี
