เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรี เมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ได่เรียกผู้สื่อข่าวเข้าไปคุยในห้องทำงานที่สำนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ที่ต่างต้องการจะสัมภาษณ์กรณีคลิปภาพ นพ.เปรมศักดิ์ อยู่ในพิธีแต่งงานกับหญิงสาวชั้น ม.5 แต่ต่อมาทั้งหมดได้พบ นพ.เปรมศักดิ์ ที่สั่งให้สั่งล็อกห้องทำงาน และให้เจ้าหน้าที่เก็บอุปกรณ์สื่อสารรวมถึงกล้องถ่ายภาพ จากนั้น นพ.เปรมศักดิ์กล่าวตำหนิการเผยแพร่ข่าวดังกล่าวอ้างเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นการบิดเบือนข้อมูล ทั้งที่เป็นภาพการช่วยเหลือหญิงสาวที่ครอบครัวกำลังเดือดร้อน นพ.เปรมศักดิ์ยังสั่งให้ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ถอดกางเกงขายาวออกมาจนถึงเหนือเข่าก่อนจะให้เจ้าหน้าที่่ใช้กล้องถ่ายรูปและกล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหวบันทึกภาพ แล้วปล่อยกลุ่มนักข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นทั้ง 5 คน ออกจากห้องทำงาน ประกอบด้วย จากหนังสือพิมพ์มติชน-ข่าวสด เดลินิวส์ เนชั่น ช่อง 3 และเคเบิ้ลท้องถิ่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมนั้น
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้สื่อข่าวทั้ง 5 ได้นัดหมายกันเพื่อไปแจ้งความเอาผิด นพ.เปรมศักดิ์ ที่ สภ.บ้านไผ่ แต่ได้เดินทางไปขอพบ พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เพื่อขอคำแนะนำ
ที่ห้องประชุมย่อยตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ผู้สื่อข่าวทั้ง 5 คน ได้เข้าพบ พล.ต.ต.จิตรจรูญ โดยได้แนะนำให้ผู้เสียหายทั้งหมด ไปลงบันทึกประจำวันในส่วนของการถูกกักขัง และบังคับขืนใจให้เกิดความอับอาย โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรบ้านไผ่คอยอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลสถานที่สำนักงานสื่อเพื่อรักษาความปลอดภัยให้ด้วย จากนั้นทางกลุ่มผู้เสียหายได้เดินทางเข้าพบนายกำธร ถาวรสถิต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวว่า จะดำเนินการตั้งกรรมการ โดยมีปลัดจังหวัดเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนี้ หาก นพ.เปรมศักดิ์ มีความผิดจริงอาจถึงขั้นปลดออกจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่
ต่อมาเวลาประมาณ 11.30 น. ผู้สื่อข่าวทั้ง 5 ได้เดินทางไปถึง สภ.บ้านไผ่ เพื่อแจ้งข้อหา นพ.เปรมศักดิ์ ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวจนขาดอิสรภาพ
ทั้งนี้เวลา 13.00 น.ที่ห้อง ศปก.สภ.บ้านไผ่ นายก่อสิทธิ์ กองโฉม อายุ 64 ปี ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ และ นายสุพล บุญชื่นชม ผู้สื่อข่าวนสพ.ข่าวสด นสพ.มติชน , นายปราโมทย์ ศรีบุระ ผู้สื่อข่าวช่อง 3, นายปรัชญา เทพสกุล ผู้สื่อข่าว ขอนแก่นเคเบิ้ลทีวี และ นางจิติมา จัน พรม นักข่าวเนชั่น เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ที่จับแก้ผ้านายก่อสิทธิ์ ในห้องทำงานที่สำนักงานเทศบาลบ้านไผ่ พร้อมทั้งกักขังนักข่าวอีก 4 คน ในห้องเดียวกัน เมื่อวันที่ 26 ที่ผ่านมา
ในเวลาต่อมา พ.ต.อ.วิทยา ทองเหลา รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วยพ.ต.จำรัส จันทร์แดง ผกก.สภ.บ้านไผ่ เดินทางมารับแจ้งความด้วยตัวเอง พร้อมกำชับการปฎิบัติ กับ พงส.ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดย นายก่อสิทธิ์ แจ้งในข้อหา ข่มขู่ กักขังหน่วงเหนี่ยว กักขัง คุกคามเสรีภาพในร่างกาย ส่วนนักข่าวรายอื่นแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานไว้ก่อน
พ.ต.อ.วิทยา กล่าวว่า สำหรับคดีนี้โดยนายก่อสิทธิ์ แจ้งในข้อหา ข่มขู่ กักขังหน่วงเหนี่ยว กักขัง คุกคามเสรีภาพในร่างกาย ส่วนนักข่าวอีก 4 คน ประกอบด้วยนายปราโมทย์ ศรีบุระ อดีตหน.ศูนย์ข่าวช่อง 3 ภาคอีสาน ผู้สื่อข่าวช่อง 3 นายสุพล บุญชื่นชม ผู้สื่อข่าว มติชน – ข่าวสด ประจำ จ.ขอนแก่น นางจิตติมา จันพรม ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี ประจำศูนย์ข่าวภาคอีสาน และนายปรัชญา เทพสกุล ผู้สื่อข่าวขอนแก่นเคเบิ้ลทีวี ได้แจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกันไว้เป็นพยาน ซึ่งขณะนี้ได้แยกผู้เสียหายและทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวม 5 คน แยกสอบปากคำ โดยตนจะเข้าไปดูแลและติดตามการสอบสวนและการทำสำนวนคดีนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นคดีที่ทุกคนต่างให้ความสนใจ
ด้าน นพ.เปรมศักดิ์ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาระบุว่า เวลา 08.30 น.จะเดินทางไป สภ.บ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับสื่อมวลชน ฐานบุกรุกห้องทำงานนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ และหน่วงเหนี่ยวบีบคั้นกดดันเพื่อขอข่าวซึ่งไม่มีสาระประโยชน์ใดต่อสาธารณชน อันมีพฤติการณ์ละเมิดสิทธิเสรีภาพและสิทธิส่วนบุคคล แทนที่จะเปิดโอกาสให้ได้ทำงานบริหารจัดการเพื่อประโยชน์สาธารณะ และบริการประชาชนที่รอรับการบริการอยู่ เป็นการตัดโอกาสที่ประชาชนผู้ประสบปัญหาเดือดร้อนต่างๆ จะเข้าถึงบริการสาธารณะของภาครัฐ โดยโพสต์ข้อความดังกล่าวเมื่อเวลา 08.30 น.ซึ่งเป็นเวลาที่เจ้าตัวระบุว่าจะไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บ้านไผ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ปฏิบัติการ (ศปภ.) สภ.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ดร.นพ.เปรมศักดิ์ ได้เดินทางพบพบกับ นายจารึก เหล่าประเสริฐ นายอำเภอบ้านไผ่ พ.ต.อ.จำรัส จันทร์แดง ผกก.สภ.บ้านไผ่ ซึ่งยังมีสีหน้าเรียบเฉยเป็นปกติ โดยแจ้งความประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีกับ 5 นักข่าว ที่เดินทางมาพบ ที่สำนักงานเทศบาลบ้านไผ่ เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวระบุว่า สำหรับการพูดคุยภายในระหว่างนายจารึก เหล่าประเสริฐ นายอำเภอบ้านไผ่ พ.ต.อ.จำรัส จันทร์แดง ผกก.สภ.บ้านไผ่ และ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ ใช้เวลานานกว่าชั่วโมง ซึ่งต้องการแจ้งความข้อหาบุกรุกกับ 5 นักข่าวที่เดินทางไปทำข่าวที่เทศบาลบ้านไผ่ แต่เจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องและทำการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะเดินทางกลับไปปฏิบัติภารกิจนายกเทสมนตรีเมืองบ้านไผ่ และยังไม่พูดคุยกรณีภาพที่ออกมาทางสื่อโซเชียล
ต่อมาเวลาประมาณ 13.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ไปดักรอเพื่อสัมภาษณ์ ดร.นพ.เปรมศักดิ์ ที่หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่ แต่ถูกปฏิเสธและไม่พูดคุยอะไร โดย ดร.นพ.เปรมศักดิ์ ฯ ยังมีสีหน้าเรียบเฉย แต่งกายด้วยชุดปกติขาว เดินขึ้นรถตู้ของเทศบาลไปยังอุโบสถวัดคุ้มจัดสรร เขตเทศบาลบ้านไผ่
ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ยังตามเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องทั้งนี้สำหรับนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จะยังมีภารกิจต่อจากนี้อีก 2 แห่ง คือในเวลา16.00 น.ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ตรวจสุขภาพผู้ยากจนและผู้พิการ ณ ชุมชนอุตตรนคร ในเขตเทศบาลบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น และ 18.00 น.ถวายน้ำปานะแด่พระภิกษุสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนที่จำศีลในโอกาสเทศกาลเข้าพรรษา ณ วัดสะอาดโนนงาม ชุมชนหนองลุมพุก ขณะที่หน้าเพจเฟชบุ๊คส์มีผู้เข้ามาให้กำลังใจจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามเมื่อเสร็จจากภารกิจทางด้านพล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขก. ได้เดินทางไปยัง สภ.บ้านไผ่ด้วยตนเอง เพื่อติดตามความเรียบร้อยในการดำเนินการของพนักงานสอบสวนในสังกัด พร้อมกล่าวกับทางทางวิวัฒน์ หมื่นกันยา หัวหน้าศูนย์ข่าวเดลินิวส์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ได้นำดอกไม้มอบให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติว่า ตนได้กำชับให้มีการปฏิบัติทั้งต่อผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหาด้วยความยุติธรรม โดยขอเวลาเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างละเอียดต่อไป.
ด้านสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ได้ออกหนังสือแถลงการณ์ต่อกรณีดังกล่าว ระบุว่า การกระทำของ นพ.เปรมศักดิ์ ที่ถือเป็นบุคคลสาธารณะได้รับการยอมรับในระดับพื้นที่และระดับประเทศ ดำรงตำแหน่งประธานสันนิบาตเทศบาลจังหวัดขอนแก่น จบการศึกษาระดับสูงสุด แถมเรียนจบแพทยศาสตร์ เป็นอาชีพที่คนไทยยกย่อง เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุแม้ผู้ตกเป็นข่าวจะเห็นว่าการนำเสนอข่าวเป็นสิ่งไม่เหมาะสมก็สามารถใช้สิทธิทางกฎหมายต่อผู้ระเมิด ไม่ควรใช้กำลังกระทำการอันเป็นการแสดงถึงการคุกคามสื่อมวลชนเช่นนี้ เป็นการกระทำที่โหดร้ายป่าเถื่อน ถือเป็นการข่มขู่ คุกคาม ละเมิดสิทธิ ทำให้อาย บังคับข่มเหงจิตใจผู้อื่น ทำให้เสื่อมเสียพร้อมกับคุมขังทำให้ผู้อื่นสิ้นอิสรภาพ ขัดต่อกฎหมายอาญามาตรา 309 ข่มขืนใจให้ผู้อื่นยอมจำนน โดยเป็นการทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายและเสรีภาพ และขัดต่อประมวลกฎหมายอาญา 301 ที่มีการหน่วงเหนี่ยวกักขัง คุกคามเสรีภาพ
“สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ขอประณาม นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรี เมืองบ้านไผ่ และขอให้บุคคลหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบนักการเมืองดำเนินการตามหลักจริยธรรม เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในการละเมิดสิทธิเสรีภาพของนักข่าว และข่มขู่หน่วงเหนี่ยว กักขัง คุกคามเสรีภาพ ในร่างกายอีกต่อไป ทั้งนี้ สมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดขอนแก่น พร้อมพิทักษ์และปกป้องเสรีภาพของสื่อมวลชนที่ปฏิบัติหน้าที่ตามวิชาชีพอย่างเต็มที่” แถลงการณ์ระบุตอนท้าย
