สมคิด โว แค่10เดือนผลงานมากกว่า5ปีรบ.ในอดีต หวังคนตาไม่บอดเห็นความดีบิ๊กตู่

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์

สมคิด เชื่อ บิ๊กตู่ ไม่สืบทอดอำนาจ ฟุ้ง ผลงาน 10 เดือนมีมากกว่า 5 ปีของรัฐบาลในอดีต รับกังวลประชามติบังสิ่งดีๆ ของรัฐบาล บอก ไม่มีอะไรพูดหากเอาทุกอย่างมาไว้ที่ 7 ส.ค. ขอประชาชนเชื่อใจและศรัทธา อย่าขัดแย้งเหมือนอดีต

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 กรกฎาคม ที่หอประชุมกองทัพเรือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อเสริมเศรษฐกิจฐานราก สร้างเมกะโปรเจ็กต์ขับเคลื่อนประเทศ ตอนหนึ่งว่า การเปลี่ยนแปลงในเมืองไทยไม่ใช่แบบตุรกี อย่าซี้ซั้วพูด ของเราเป็นประเทศที่มีปัญหา แต่รัฐบาลพยายามแก้ไขในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คนพูดควรมีสติและความรับผิดชอบให้มากกว่านี้ วันนี้เห็นนายกฯทำงานหนัก และไม่เคยมีใครอ่านวาระการประชุม ครม.แทบทุกหน้าเหมือนนายกฯ ไม่เคยเห็นตรงไหนที่แสดงให้เห็นว่านายกฯจะสืบทอดอำนาจ การทำงานตนก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมานั่งเอาใจ เมื่อนายกฯไม่ได้เป็นนักการเมือง แต่เข้ามาอยู่ในการเมือง ซึ่งจะต้องมีการเสียดสี ดิสเครดิตกันบ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมทางการเมือง มีการแข่งขันการต่อสู้ ซึ่งคนที่มาจากทหารอาจไม่คุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้ ก็เลยเกิดความเครียด ทำให้โกรธบ้าง โมโห ซึ่งเราต้องให้อภัย มองในสิ่งที่นายกฯกำลังทำ ซึ่งหากเปิดตาดู ตาไม่บอด ก็จะรู้ว่าทำอะไรไปบ้าง

นายสมคิด กล่าวว่า ความตั้งใจแก้ไขปัญหาความยากจนของนายกฯ แม้ตนเป็นคนคิด แต่ถ้านายกฯไม่สนับสนุน การแก้ไขปัญหาแต่ละอย่างคงไม่ออกมา ลองไล่ดูกันได้ วาระที่ผ่าน ครม.เอาเฉพาะเรื่องช่วยคนจน ออกมากี่เรื่องแล้ว หากย้อนกลับไป 5 ปี กับที่รัฐบาลทำ 10 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นชัด ดังนั้น คนที่วิจารณ์ขอให้ดูด้วย เวลา 10 เดือนที่ทำงานมา ตนที่ว่าเหนื่อยแล้ว นายกฯเหนื่อยกว่าเพราะต้องทำในเรื่องการเมืองด้วย การเมืองเป็นเรื่องที่ต้องทำ ไม่สามารถหลบหลีกได้ ดังนั้นนายกฯจึงต้องทน ด้วยเหตุนี้เวลาที่นายกฯเปิดหนังสือพิมพ์อ่าน เห็นสื่อกระแนะกระแหน การที่นายกฯโกรธก็เป็นเรื่องปกติ แต่ที่นายกฯทนได้ถึงทุกวันนี้ เพราะเมื่อไหร่ที่ลงพื้นที่ต่างมีประชาชนมาให้กำลังใจ นั่นแปลว่าที่ทำไปไม่ได้สูญเปล่า

“วันที่ 7 สิงหาคม รัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ มันก็เกิดความกังวล ความตึงเครียด ซึ่งมาบดบังสิ่งที่กำลังดีขึ้น และความตึงเครียดตรงนี้ไม่ได้อยู่แค่เมืองไทย มันเริ่มไปต่างประเทศ คนไทยอยู่ในช่วงของการเรียนรู้เรื่องประชาธิปไตย เรียนรู้ว่าอะไรที่เหมาะสมกับประเทศที่สุด แต่น่าแปลกใจที่ประเทศแม่แบบประชาธิปไตยไม่มีรัฐธรรมนูญที่เป็นลายลักษณ์อักษร ขณะที่ประชาชนต่างก็ซึมซับเรื่องของประชาธิปไตย เรื่องนี้นักวิชาการวิเคราะห์ข้อดีว่า เพื่อความยืดหยุ่น ไม่ติดยึดแบบตายตัว เมื่อมีสิ่งใหม่ๆ ก็สามารถเพิ่มเข้าไปได้ เป็นช่องทางในการพูดคุย ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน แต่ถ้าประเทศเราเอาทุกอย่างมาไว้ในวันที่ 7 สิงหาคม ว่าผลออกมาอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วจะแตกหัก ประเทศอยู่ไม่ได้ ผมก็ไม่มีอะไรจะพูด แต่จะบอกว่า ให้ลองคิดกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ถ้าไม่อยากให้ประเทศกลับไปตรงนั้น ทุกคนต้องมีสติ ไว้เนื้อเชื่อใจกัน มีศรัทธาและความเชื่อระหว่างกัน ผมไม่เคยแสดงความเห็นทางการเมือง แต่คิดว่าบ้านเมืองต้องมาก่อน ส่วนตัวต้องมาทีหลัง เพราะถ้าบ้านเมืองอยู่ไม่ได้ ส่วนตัวก็อยู่ไม่ได้” นายสมคิด กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image