เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ต.อ.บัญญัติ ทั่งกลาง ผกก.กลุ่มงานสอบสวนภูธร จังหวัดนครราชสีมา พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ชวนกระโทก หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง ร.ต.อ.ศิริสรร จันทะภักดี รอง สว.(สอบสวน) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายตรวจและเก็บกู้วัตถุระเบิดระเบิด ภูธรภาค 3 (อีโอดี) เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายตรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธร ภาค 3 ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านเลขที่ 92 /254 ข้างวัดไทยเดิม ในบริเวณโครงการณัชริญา เฮ้าส์ หมู่ 7 ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อเข้าตรวจสอบหาหลักฐานสาเหตุจากการเกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงแล้วไฟลุกไหม้เสียหายทั้งหลัง ซึ่งในโครงการเป็นบ้านที่สร้างเป็นหลังแรกที่เกิดระเบิด ส่วนอีกหลังกำลังก่อสร้าง
หลังจากการตรวจสอบ พบว่าเป็นบ้านชั้นเดียว สร้างด้วยอิฐมวลเบา โครงหลังคาเหล็กมุงด้วยกระเบื้องรอนคู่ ปลูกในเนื้อที่ 3 งานเศษ กำลังก่อสร้างกำแพงรั้วรอบ พบว่าบ้านทั้งหลังถูกแรงระเบิดพังพินาศ ชิ้นส่วนวัสดุปลิวกระเด็นไปไกลกว่า 30 เมตร จนทำให้บ้านข้างเคียงของชาวบ้านได้รับความเสียหายครึ่งหลัง ทรัพย์สินภายในบ้าน แอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ เตียงที่นอน โต๊ะและอุปกรณ์ภายในบ้านพังเสียหายหมดไม่มีชิ้นดี เจ้าหน้าที่ได้รื้อเศษวัสดุที่กองทับถมกันออกเพื่อหาหลักฐานสาเหตุทำให้เกิดระเบิด ส่งเสียงดังไปไกลกว่า 20 กม. แต่กำลังมีไม่พอจึงขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างวิชชาธรรมสถานปากช่อง กว่า 5 นาย ช่วยรื้อกองวัสดุเพื่อหาหลักฐาน
ด.ต.นิพนธ์ ทองดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ปจว.นม. (อีโอดี) หัวหน้าทีม กล่าวว่า จากการตรวจสอบพื้นที่จากความเสียหายของตัวบ้านทั้งหลังและมีแรงอัดมาก คาดว่าน่าจะเกิดจากแรงอัดของแก๊สแล้วเกิดระเบิด เพราะขณะเกิดเหตุบ้านปิดมิดชิดทุกด้าน ไม่มีใครอยู่ แต่จากการตรวจสอบยังไม่พบเศษชิ้นของถังแก๊สหรือวัตถุอื่นที่เป็นสาเหตุระเบิด แต่ต้องค้นหาต่อไป
น.ส.ธนาธร ขุมเงิน อายุ 32 ปี บ้านที่มีรั้วติดกับบ้านเกิดเหตุระเบิดและทำให้บ้านพัง กระจกประตูหน้าต่างและห้องน้ำพังเสียหายมาก มูลค่ากว่า 1 แสนบาท กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุประมาณ 21.30 น.เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะนอนหลับในบ้านตกใจสะดุ้งตื่นนึกว่ามีเครื่องบินตกใส่หลังคาบ้าน เมื่อตั้งสติแล้วออกมาดูพบว่ามีเศษวัสดุตกกระจายทั่วบริเวณบ้านเต็มไปหมดไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร
พ.ต.ท.วีระศักด์ ชวนกระโทก หัวหน้าพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า จากการสอบถาม ร.ต.อ.ศิริสรร จันทะภักดี รอง สว.(สอบสวน) เจ้าของคดี ได้ติดต่อกับนางสายพิน เจนใจ อายุ 45 ปี เจ้าของบ้านเกิดเหตุ ทราบว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 29 กรกฎาคม พาคนงานขนข้าวของและอุปกรณ์มาไว้ในบ้าน เสร็จแล้วได้กลับบ้านที่กรุงเทพฯ โดยบ้านหลังดังกล่าวได้ทำสัญญาซื้อขายต่อจากเจ้าของเดิม ราคาประมาณ 3 ล้านบาท แต่อยู่ในช่วงวิ่งเต้นกับทางธนาคาร ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นก็จะรับผิดชอบตามความเสียหาย และจะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนในวันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 22.00 น.คืนวันที่ 29 กรกฎาคม ร.ต.อ.ศิริสรร จันทะภักดี รอง สว.(สอบสวน) รับแจ้งมีเหตุระเบิดและไฟไหม้บ้านไทยเดิม ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง ได้ประสานรถดับเพลิงจำนวน 2 คันเข้าระงับเหตุดับไฟนานกว่า 20 นาที ไฟจึงสงบพบว่าความเสียหายเกิดจากแรงระเบิดเสียหายทั้งหลัง ยกเว้นโรงจอดรถทำด้วยโครงเหล็กมุงหลังคาเหล็ก ปลูกอยู่ด้านทิศเหนือของบ้านห่างจากบ้านประมาณ 15 เมตรไม่ได้รับความเสียหาย
โดยมีนายมาต๊าบ คนเฝ้าโครงการนอนเฝ้าอยู่หน้าโครงการห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 800 เมตร ให้การว่าไม่พบสิ่งผิดปกติก่อนเกิดเหตุ เพราะรอบบ้านที่เกิดเหตุเปิดไฟส่องสว่างไว้รอบทิศ ส่วนสาเหตุไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร
