สำหรับเหตุไฟไหม้และระเบิดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้น พบทั้งสิ้น 3 เหตุการณ์ เจ็บ 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย
โดยตั้งแต่เวลา 03.30 น วันที่ 12 สิงหาคม ร.ต.อ.อุดมศักดิ์ มาศมาลัย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 2 ชั้นครึ่ง ร้านทวีสินพลาสติก เลขที่ 486/3-6 ติดธนาคารกรุงเทพ สาขากาญจนวิถี ถนนกาญจนวิถี ต.บางกุ้ง เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จึงพร้อม พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวศิน ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี นายธีระกิจ หวังมุทิตากุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่นำรถดับเพลิง 10 คันไปยังที่เกิดเหตุระดมฉีดน้ำใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงได้ เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุ มูลค่าเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท
ต่อมาเวลา 08.00 น.ได้เกิดเหตุระเบิดที่หน้าป้ายกองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี ถนนหน้าเมือง ริมเขื่อนแม่น้ำตาปี เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ห่างจากสถานที่ตักบาตรทำบุญ ประมาณ 50 เมตร ที่มีนายนายวงศ์ศิริ พรหมชนะ ผวจ.สุราษฎร์ธานี เป็นประธานเพิ่งเสร็จพิธีเพียง 5 นาที จึงพร้อม พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 สุราษฎร์ธานี เข้าตรวจสอบพร้อมเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่นฮีโร่ และลูกปืนล้อรถตกอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ ช่วงเกิดเหตุพนักงานเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีกำลังเก็บขยะทำความสะอาดพื้นที่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ระหว่างนำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ทราบชื่อนางจงกลดี ทุ่มกระจ่าง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/6 ซอย 21 ถนนการุณราษฎร์ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ถูกสะเก็ดระเบิดมีบาดแผลที่แขน ขาและลำตัว และผู้บาดเจ็บ 3 ราย คือ นางจันทร์รัตน์ นุ้ยมัย อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 288 /56 หมู่ 4 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี บาดเจ็บที่ศีรษะ นายณรงค์ชัย สุขแก้ว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154/44 หมู่ 2 ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี และนายธีระวิทย์ บัวน้อย อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106/36 หมู่ 1 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี บาดเจ็บที่สะโพก ถูกนำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
ถัดมาเวลา 08.30 น. ได้มีเสียงระเบิดดังที่ข้างตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ริมรั้วด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี ห่างจากจุดแรกประมาณ 300 เมตร ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องจุดชนวนด้วยนาฬิกาปลุกโทรศัพท์มือถือ
นายวงศศิริ พรหมชนะ ผวจ.สุราษฎร์ธานี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือและเศษวัตถุระเบิดตกอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ นอกจากนี้พบกระป๋องมันฝรั่งสีแดง ยี่ห้อฟริงโก้ ต้องสงสัย 1 กระป๋องตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุจึงให้ชุดพิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบ
พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภาค 8 ได้สั่งการให้ตำรวจปิดถนนหน้าเมือง เส้นทางที่เกิดเหตุตลอดสายตั้งแต่แยกศาลหลักเมืองถึงแยกวัดโพธิ์ และเรียกตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจาก ตชด.41 ชุมพร เข้าตรวจสอบเพื่อหาหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมดและให้ชุดสืบสวนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากถนนทุกเส้นทาง
ต่อมาที่ห้องประชุม สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้เรียกประชุมด่วนชุดสืบสวนและชุดป้องกันทั้งหมดวางมาตรการป้องกันทั่วจังหวัด
พล.ต.ต.อภิชาติกล่าวว่า สั่งการไปยังหัวหน้าสถานีตำรวจทุกแห่งให้มีการตรวจเข้มและเอกซเรย์ในพื้นที่และจุดสุ่มเสี่ยงที่จะมีการก่อเหตุซ้ำและให้จัดตั้งจุดตรวจเข้า-ออก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร จาก มทบ.45 รวม 4 จุด ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง โดยเน้นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ท่าเรือข้ามไปยังอ.เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า
“พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และจัดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจกล้องวงจรปิดทุกจุดที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางของคนร้าย และฝากไปยังพี่น้องประชาชนให้ช่วยกันสังเกตหากพบว่ามีวัตถุต้องสงสัยให้รีบแจ้ง 191 ทันที ” พล.ต.ต.อภิชาติกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ในพื้นที่เขตตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ได้เกิดข่าวลือพบวัตถุต้องสงสัยอีก 2 จุดที่ข้างห้างสรรพสินค้าโลตัสสุราษฎร์ธานี และถนนทางไปบึงขุนทะเล ห่างจากจุดเกิดเหตุจุดแรก ประมาณ 5 กิโลเมตร
