| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
นายอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากเป็นอันดับ 2 ของโลก แต่คนไทยกลับไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการปกป้องตนเองจากความเสี่ยงดังกล่าว ล่าสุดในปีที่ผ่านมาจากไทยโรดส์จะเห็นได้ชัดเจนว่ามีผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในเมืองไทยที่ใส่หมวกกันน็อกเพียงแค่ 43% เท่านั้น คนไทยมักมีข้ออ้างไม่ใส่หมวกกันน็อกมากมาย จนกลายเป็นความเคยชินตลอดมา
“เอ.พี. ฮอนด้า จึงดำเนินโครงการฮอนด้าเมืองไทยขับขี่ปลอดภัย หนึ่งในการดำเนินงานหลักคือการรณรงค์ให้เกิดการปฏิบัติจริง ในปีนี้เราจึงได้สร้างสรรค์โครงการใหม่ชื่อว่า สังคมหัวแข็ง มีจุดมุ่งหมายเพื่อปลูกจิตสำนึกและเปลี่ยนพฤติกรรมให้คนไทยใส่หมวกกันน็อกจนเป็นนิสัย ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือน้อยที่สุด ประสานความร่วมมือกับภาคีต่างๆ สร้างความเป็นต้นแบบจากแต่ละเครือข่าย ต่อยอดขยายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมต่อสังคมไทยในวงกว้างต่อไป” นายอารักษ์กล่าว
นายอารักษ์กล่าวว่า โครงการนี้จะเน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ในชีวิตประจำวัน โดยมีเพลงสังคมหัวแข็ง ได้รับแรงบันดาลใจจากจังหวะจริงจังของเพลงปลุกใจ มาใส่ความสนุกสนานร่วมสมัยในสไตล์ฮิพฮอพ เนื้อเพลงจะกล่าวถึง 3 กฎเหล็กของการใส่หมวกกันน็อกนำมาซึ่งความปลอดภัย โดยมีจอห์น วิญญู แป้งโกะ จินตนัดดา และกอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ มาร่วมรณรงค์สร้างจิตสำนึก ขณะเดียวกัน เอ.พี. ฮอนด้า ก็จะเป็นต้นแบบทำให้เกิดการปฏิบัติจริง ในช่วงแรกของโครงการจะร่วมกับกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทยรวม 12 บริษัท และร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้ากว่า 1,200 สาขาทั่วประเทศ สร้างสรรค์สังคมหัวแข็งต้นแบบ มีพนักงานรวมกว่า 35,000 คน มาเป็นตัวอย่างที่ดีของคนไทยใส่หมวกกันน็อกทุกครั้งเมื่อใช้รถจักรยานยนต์ ก่อนขยายแนวคิดนี้ไปยังสถานศึกษา สถานที่ราชการ และชุมชนต่างๆ ทุกจังหวัด ก่อเกิดเป็นสถานศึกษาและชุมชนหัวแข็งต้นแบบ แล้วยกระดับไปสู่การรณรงค์ในระดับประเทศ
