‘ปึ้ง-เรืองไกร’ขอ’บิ๊กตู่’ให้ความเป็นธรรม’ปรเมศวร์’ เตือนใช้พระเดชมากไปไม่ดี

แฟ้มภาพ

‘ปึ้ง-เรืองไกร’ขอ’บิ๊กตู่’ให้ความเป็นธรรม’ปรเมศวร์’ เตือนใช้พระเดชมากไปไม่เป็นผลดี

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการเขียนแสดงความคิดเห็นของนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ลงเฟซบุ๊กจนทำให้ถูกย้ายไปรักษาการตำแหน่งรองอธิบดี สำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุดว่า นายปรเมศวร์ให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่านายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) และนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ทำในสิ่งที่คนไทยที่ดีทุกคนสมควรกระทำ แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับนายปรเมศวร์สมควรหรือไม่ อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดูแลให้ความเป็นธรรมด้วย ในเมื่อทุกฝ่ายต่างก็ออกมาช่วยกันปกป้อง เงินหลวง เงินแผ่นดิน เงินภาษีราษฎร และต่างก็ยึดหลักการด้านสิทธิมนุษยชน หลักธรรมาภิบาล หลักการนิติรัฐและนิติธรรมเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง เพื่อจรรโลงความโปร่งใสในสังคมไทย แต่กลับถูกกระทำแบบนี้ แล้วใครจะกล้าออกมาช่วยเป็นหูเป็นตาให้รัฐ การที่จะปฏิรูปปราบโกงปราบคอร์รัปชั่นจะหมดสิ้นไปได้อย่างไร ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ใจกว้างและทบทวนเรื่องนี้เป็นการด่วนด้วย

ขณะที่นายเรืองไกรกล่าวว่า มองว่าไม่ควรโยกย้ายนายปรเมศวร์ที่แสดงความเห็นในเรื่องตรวจสอบเพราะเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ควรใจกว้างและคืนตำแหน่งให้นายปรเมศวร์ อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ควรใช้พระคุณมากกว่าพระเดช อีกทั้งตนไม่ได้ร้องเรียนให้ตรวจสอบ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม เพียงแต่เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลงนามในคำสั่งทางปกครองคดีจำนำข้าวด้วยตัวเอง หรือไม่เช่นนั้น พล.อ.ประยุทธ์ก็ใช้มาตรา 44 ห้ามทุกหน่วยงานรัฐรับคำร้องจากตนให้หมด และมองว่าการใช้อำนาจมากเกินไปจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีแต่เสียมากกว่าได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image