บิ๊กตู่รับทหารมักโมโหง่าย แต่พร้อมปรับตัว ชี้หากยังคุยการเมือง ก็ปรองดองไม่ได้

นายกฯขอบคุณขรก.ทำงาน ขอสลายสีทำงานความมั่งคงเพื่อปท. รับทหารโมโหง่ายแต่พร้อมปรับปรุงตัว ย้ำลต.ตามโรดแมปวอนช่วยทำความเข้าใจต่างชาติ ระบุคุยการเมือง 10 ชาติ ไม่มีวันปรองดองได้

ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นประธานการจัดงานสรุปผลการปฏิบัติงาน ประจำปี 2558 และแถลงแผนการปฏิบัติงาน ประจำปี 2559 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. โดยมี คณะกรรมการ กอ.รมน. หน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

โดยพลเอกประยุทธ์ได้กล่าวขอบคุณข้าราชการทุกคน ที่ร่วมมือการทำงานมาตลอดปีที่ผ่านมา พร้อมฝากให้ข้าราชการ สลายสีรวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ลดอัตตา แล้วจึงนำประชาชนมาร่วมมือ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคง และบูรณาการร่วมกับกลุ่มงานอื่น เพื่อแก้ไขปัญหาประเทศอย่างยั่งยืน ทั้งยังย้ำเตือนต้องไม่ให้เกิดปัญหาการทุจริต ยืนยันส่วนตัวเชื่อมั่นในข้าราชการทุกคน ส่วนถึงการจับกุมขบวนการลักลอบปลอมแปลงพาสปอร์ตที่ทำในไทยมากกว่า 25 ปี ว่ามีการปล่อยปละละเลย ให้มีการกระทำเช่นนี้ได้อย่างไร ดังนั้นในระหว่างที่รัฐบาลนี้ ทำหน้าที่อยู่ จะต้องเคลียร์ประเทศให้ได้

พลเอกประยุทธ์กล่าวถึงการแสดงออกเรื่องการใช้อารมณ์ของตนเอง โดยยอมรับว่ามีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ส่วนตัวก็ได้พยายามปรับปรุงแก้ไขตัวเองแล้ว แต่ก็ต้องขอให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย ระบุทหารโมโหง่ายแต่ก็พร้อมปรับปรุงแก้ไข ส่วนตำรวจก็ต้องทำตนให้เป็นที่รักของประชาชนให้ได้ ต้องทำงานด้านมวลชน ควบคู่กับงานประจำที่ต้องบังคับใช้กฎหมายให้ได้

Advertisement

ส่วนปัญหาการก่อการร้ายนั้น วันนี้ถือว่าเป็นที่สำคัญที่สุดในด้านความมั่นคง อย่าคิดว่าบ้านเราปลอดภัย เพราะไม่มีประเทศใดในโลกที่ปลอดภัย ดังนั้นรัฐบาลกำลังจัดเตรียมเทคโนโลยีและกล้องจับใบหน้าให้พอเพียงเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และอยากให้ระวังพวกสุดโต่งเพราะไม่อยากให้ประเทศไทยเป็นคู่ขัดแย้ง และทำตัวเป็นประเทศมีทางเลือก มีอิสระแต่ต้องทำตามพันธสัญญาโลก ซึ่งเวลาตนเดินทางไปต่างประเทศมีคนบอกว่าในไทยมีผู้ก่อการร้ายในประเทศและอันตรายที่สุดในอาเซียน เพราะนำแต่เรื่องปัญหา 3 จังหวัดชานแดนภาคใต้มาตัดสิน แต่ความจริงแล้วประเทศไทยมีถึง 77 จังหวัด จะไปพูดแบบนั้นไม่ได้และฝ่ายความมั่นคงต้องไปชี้แจงปล่อยไว้ได้อย่างไร ซึ่งตนได้ชี้แจงไปแล้วกับชาวต่างชาติบางส่วนว่า บ้านเมืองเราเป็นแบบนี้จะให้ทำอย่างไร ซึ่งต่างชาติบอกว่าคิดไม่ออก ให้เวลา 10 ปีก็คิดไม่ออก เพราะคนไทยไม่เหมือนใคร อยากปลอดภัยแต่ไม่อยากให้บังคับใช้กฎหมาย

พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า ในการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบต้องมีการทำบัญชีรายจ่าย และที่สำคัญเริ่มแก้ไขปัญหาตนเอง และสร้างความเข้มแข็งในการลดหนี้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ เพราะจะเป็นเช่นเดียวกับหนี้ครูที่มีสูงถึง 2 ล้านล้านบาท และยังมีหนี้สินของเกษตรกร ถ้าหนี้นำมารวมกันขายประเทศซัก 10 รอบก็ยังใช้ไม่หมด ส่วนความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวมีความสำเร็จไปมา ขณะนี้มีแรงงานจดทะเบียน 2 ล้านคนแล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าวควรทำให้ถูกกฎหมายและร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านในการร่วมกันตรวจสอบ แต่ในประเทศจะต้องพัฒนาฝีมือแรงงานให้ได้ รวมถึงเรื่องค้ามนุษย์จะต้องแก้ไข เช่น การทำการประมงผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลได้ติดตามมาโดยตลอดและตนจะไล่ติดตามของทุกหน่วยงาน เพราะที่มาผ่านมามีการส่งเพียงการแก้ไขกฎหมาย แต่ไม่ได้เสนอลงรายละเอียดในทางปฏิบัติ ต่อไปนี้ถ้ามีประชุมไม่ต้องสรุปเรื่องการแก้ไขปัญหาด้วยกฎหมาย เพราะกฎหมายต้องผ่านหลายขั้นตอน แต่ตนต้องการรู้ว่าการทำงานทำอย่างไร มีปัญหาหรือไม่ และการทำทุกอย่างจะต้องตอบคำถามไอยูยูได้ทั้งหมด ตลอดจนเวลาตนไปไหนหน่วยงายราชการไม่ต้องตกแต่งสถานที่อะไรต้อนรับ เพราะตนไม่ได้ให้คะแนนความสวยงามแต่ดูที่เนื้องานมากกว่า

พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า ต่างชาติบอกให้ไทยกลับมาสู่ประชาธิปไตยและเลือกตั้งโดยเร็ว ซึ่งตนจะเร่งให้ตามโรดแมป แต่ต่างชาติอาจคงไม่เข้าใจแต่ทุกคนต้องสร้างความเข้าใจในทุกมิติ พร้อมยืนยันว่าไม่ฝืนประชาธิปไตย ส่วนรัฐธรรมนูญมีปัญหาอย่างไร หรือจะอยู่ในบทเฉพาะกาลหรือไม่ให้ไปคิดมา ซึ่งอย่าดูว่าสากลหรือสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เพราะต้องเป็นสากลอยู่แล้ว อีกทั้งการปรองดองต้องเริ่มด้วยตัวเอง ถ้าไม่พูดเรื่องการเมืองก็ปรองดองได้หมด เพราะการเมืองเป็นเรื่องของความเห็นต่าง ถ้าร่วมมือกันไม่ได้ 10 ชาติก็ปรองดองไม่ได้ จะร่างกฎหมายก็มีการปรองดองก็ไม่ได้

Advertisement

ทั้งนี้ ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีขอบคุณ สปท. สนช. กรธ. ที่ตนได้ตั้งขึ้นมาเพื่อให้เกิดการปฏิรูปที่จะต้องเริ่มจากทุกวันนี้ ซึ่งระยะที่ 1 ที่ผ่านมาทุกฝ่ายก็รวมกันทำมาตลอด และระยะต่อไปก็ต้องกำหนดแผนเรื่องการปฏิรูป ให้สอดคล้องให้นำไปใส่ไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และในเรื่อง รธน. นายกรัฐมนตรีอยากให้ดูเรื่องเจตนาการร่างขึ้นมาว่าเพื่ออะไร ไม่ใช่คิดว่าจะเป็นการสืบทอดอำนาจ นอกจากนี้ยังได้ถามผู้เข้าร่วมประชุมว่าได้ฟังเพลงคนดีแล้วหรือไม่ พร้อมระบุว่า ไม่ใช่แปลว่าเป็นคนดีแล้วจะไม่ตาย แต่คนดีจะไม่ตายไปจากความทรงจำของคน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image