สงครามน้ำแข็งไส “บิงซู” “ร้านอาหาร-ไอศกรีม” ประชันเมนูเดือด (คลิป)

ข้อมูล ที่มา คอลัมน์ จับกระแสตลาด ประชาชาติธุรกิจ

“น้ำแข็งไส” ของหวานคลายร้อนที่คนไทยคุ้นเคยไม่แพ้ไอศกรีม กำลังเป็นเมนูสุดฮิตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสนใจกับ “บิงซู” หรือน้ำแข็งไสสไตล์เกาหลีราคาหลักร้อยที่มักเสิร์ฟเกล็ดน้ำแข็งหลากรสเป็นภูเขาสูง ท็อปปิ้งด้วยผลไม้-ไอศกรีม ราดด้วยซอสผลไม้สีสด ทำให้เกิดการ “แชะ” และ “แชร์”จนเกิดกระแสบอกต่อทำให้น้ำแข็งไสสไตล์เกาหลี-ญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักในวงกว้างอย่างรวดเร็ว และมีร้านทั้งไทยและเทศแห่เสิร์ฟเมนูนี้มากขึ้น

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า หลังจาก “ซอลบิง” ร้านคาเฟ่ขนมหวานรายใหญ่ที่มีกว่า 490 สาขาทั่วเกาหลี ได้เข้ามาปักธงเปิดร้านแฟรนไชส์สาขาแรกในไทย ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ถึงวันนี้มีกว่า 10 สาขา และยังมีแผนเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด นอกจากยังมีร้านอาหารเครื่องดื่มทั้งไทยและต่างประเทศหลายค่ายที่ได้ทยอยเพิ่มเมนูน้ำแข็งไสหลากหลายรสออกมารับโอกาส

Advertisement

“ลี ยง จิน” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซอลบิง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ร้านคาเฟ่ในไทยยังคงเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นร้านกาแฟและเบเกอรี่ จึงเป็นโอกาสของซอลบิงที่แตกต่างด้วยการมีน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะและขนมหวานสไตล์เกาหลีเป็นสินค้าชูโรง ซึ่งเชื่อว่าจะเข้าถึงลูกค้าได้ทุกเพศทุกวัย

เช่นเดียวกับร้านกาแฟเกาหลี “ฮอลลี่ส์ คอฟฟี่” ที่มีเมนูบิงซูเป็นเมนูของหวานในร้าน “แจยูล ชอย” ประธาน บริษัท ฮอลลี่ส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านกาแฟ “ฮอลลี่ส์ คอฟฟี่” ในไทย บอกว่า บิงซูเป็นเมนูทำให้ฮอลลี่ส์ คอฟฟี่ มีความแตกต่างจากเชนร้านกาแฟอื่น ๆ ในไทย และด้วยสภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนยาวนานกว่าเกาหลี บิงซูมีโอกาสการขายที่ดี โดยจะเน้นทำโปรโมชั่นบิงซูในสาขาที่มีกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน-นักศึกษา เป็นลูกค้าหลัก

และเร็ว ๆ นี้ ฮอลลี่ส์ คอฟฟี่ ได้ประกาศหาคู่ค้าทางธุรกิจผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ Hollys Coffee Thailand เมื่อกลางสัปดาห์ก่อนว่าต้องการวัตถุดิบสำคัญของเมนูบิงซูอย่างมะม่วงและเมลอนจำนวนมาก

Advertisement

ด้านความเคลื่อนไหวของร้านคาเฟ่ขนมหวานชื่อดัง “อาฟเตอร์ยู” ที่เติมเมนูคากิโกริ ฉีกแนวไปเป็นน้ำแข็งไสสไตล์ญี่ปุ่น

และการตอบรับดีจนต่อยอดแตกแบรนด์ใหม่ “เมย์โกริ” ที่มีคากิโกริเป็นเมนูหลัก วันนี้มี 2 สาขาแล้วที่ทองหล่อและสยามสแควร์วัน

ล่าสุด เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ร้านไอศกรีมหรู “ฮาเก้น-ดาส” ได้เปิดตัวเมนู “บิงซู” ที่เป็นเกล็ดน้ำแข็งรสนม พร้อมท็อปปิ้งหลากหลายรูปแบบและไอศกรีม 5 รูปแบบ ราคา 250 บาท ออกมาโหนกระแส โดยเริ่มนำร่องที่ฮาเก้น-ดาส คาเฟ่ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์

ขณะที่ร้านอาหาร “เอสแอนด์พี” ก็ได้เปิดตัว “สโนว์เบรด” น้ำแข็งไสเกล็ดหิมะ ท็อปปิ้งด้วยผลไม้ ขนมปัง ฯลฯ ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้เช่นกัน

“กำธร ศิลาอ่อน” รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายการผลิตและซัพพลายเชน บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) บอกว่า “สโนว์เบรด” คืออีกเมนูใหม่ที่เอสแอนด์พีตั้งใจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่มากขึ้น เสริมจากที่มีกลุ่มผู้ใหญ่เป็นฐานลูกค้าหลัก เพื่อให้มาใช้บริการเอสแอนด์พีได้ทั้งครอบครัว อย่างไรก็ตาม ราคาขายถ้วยละ 85 บาท อาจไม่ได้ช่วยขยับยอดใช้จ่ายต่อบิลให้เพิ่มขึ้นมากนัก แต่น้ำแข็งไสเป็นของหวานที่เหมาะกับการแบ่งกันรับประทานกับเพื่อนฝูง ก็เป็นอีกเมนูรองรับลูกค้าที่มากันเป็นกลุ่ม ช่วยเพิ่มทราฟฟิกของร้านให้สูงขึ้น

“การแข่งขันที่รุนแรงทำให้เอสแอนด์พีต้องขยับตัวมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือการพัฒนาสินค้า นำเสนอเมนูใหม่ทุกเดือน เพื่อดึงลูกค้าให้ยังคงใช้บริการอยู่เสมอ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ไปพร้อมกัน เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายให้มากขึ้นด้วย”

เมื่อน้ำแข็งไสกลายเป็นเทรนด์ฮิตใหม่ที่ปลุกสมรภูมิอาหาร-เครื่องดื่มให้คึกคักขึ้น เป็นอีกตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูงตามพฤติกรรมคนไทยที่นิยมบริโภคขนมหวานมากขึ้นด้วยเช่นกัน

ขึ้นอยู่กับว่านาทีนี้ใครจะเสิร์ฟของหวานเย็นฉ่ำได้ตรงใจลูกค้ามากกว่ากัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image