กรมส่งเสริมการเกษตรประสานพลังประชารัฐ ส่งเสริมปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดแทนนาปรัง ลดใช้น้ำ

สมชาย ชาญณรงค์กุล

กรมส่งเสริมการเกษตรยืนยัน โครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดแทนการปลูกข้าวนาปรัง เป็นประโยชน์ ช่วยเพิ่มรายได้ให้ชาวนาในช่วงฤดูแล้ง ปลูกพืชที่เป็นต้องการของตลาด ลดปริมาณผลผลิตข้าวที่ล้นตลาด ย้ำภาครัฐจะคัดเลือกพื้นที่ที่มีศักยภาพเหมาะสมกับการปลูกข้าวโพดและเกษตรกรต้องสมัครใจเข้าร่วมโครงการไม่บังคับ เกษตรกรมีความรู้ในการปลูกพืชหลังนา และมีตลาดรับซื้อผลผลิตแน่นอน ในราคาที่เหมาะสม

นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยถึงโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดแทนการปลูกข้าวนาปรังว่า โครงการนี้เป็นหนึ่งในการประสานพลังประชารัฐ เพื่อทำให้ภาคการเกษตรมีความเข้มแข็ง ทั้งด้านการผลิตและการตลาดที่สอดคล้องกัน โดยให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาภาคเกษตรให้การผลิตมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยังมีโครงการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนข้าวนาปรังด้วย เช่น พืชผักอายุสั้น และถั่วต่างๆ เป็นต้น

นายสมชาย กล่าวว่า กรมฯมีเป้าหมายเพื่อให้มีการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่า จึงต้องการปรับลดพื้นที่การปลูกข้าวนาปรัง ซึ่งใช้น้ำในปริมาณสูงถึง 1,200-3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่ เมื่อเทียบกับการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีการใช้น้ำตลอดการปลูกเพียง 500-700 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่ และปัจจุบันผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังเป็นที่ต้องการของตลาดกว่า 7.2 ล้านตัน นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกจะช่วยตัดวงจรการเจริญเติบโต และการสะสมของโรคแมลงจากการปลูกพืชชนิดเดิมๆ ซ้ำๆ

นายสมชายกล่าวต่อว่า จากข้อมูลการผลิตข้าวในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร คือ ตั้งแต่ปี 2555/56 – 2558/59 พบว่า มีพื้นที่ที่ดินมีความเหมาะสมกับการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มาก และเหมาะสมปานกลาง รวมกว่า 8 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในเขตชลประทาน 31 จังหวัด รวม 2 ล้านไร่ และจากที่ได้นำร่องส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดแทนข้าวนาปรังในปีที่ผ่านมา พบว่า เกษตรกรสามารถผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้เฉลี่ย 900-1,000 กิโลกรัมต่อไร่ มีกำไรจากการผลิตไร่ละ 2,000-4,000 บาท

Advertisement

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวด้วยว่า บริษัทเมล็ดพันธุ์ที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะต้องเป็นสมาชิกของสมาคมผู้ค้าพันธุ์พืชไทย พร้อมสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการอบรมเกษตรกร และให้คำแนะนำการปลูกกับเกษตรกรอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ร่วมกับภาคเอกชนในการรับซื้อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามมาตรฐานที่กรมการค้าภายในกำหนด โดยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เบอร์ 2 ความชื้น 14.5% ในราคาไม่ต่ำกว่า 8 บาทต่อกิโลกรัม ณ หน้าโรงงานกรุงเทพและปริมณฑล อีกทั้งการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนาโดยปกติจะมีคุณภาพดีกว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปลูกในฤดูฝนเนื่องจากเก็บเกี่ยวในช่วงปลอดฝน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image