นายแม่ทัพ ต.สุวรรณ กรรมการ บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวนไม่เกิน 165 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 22.8% ของหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนและทางกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่จะขายหุ้นเดิมออกมาในการซื้อขายวันแรกอีก 52.5 ล้านหุ้นหรือ 7.2% ให้กับนักลงทุนสถาบันในเท่ากับราคาจองซื้อ และมีราคาพาร์ที่ 0.10 บาท บริษัทคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ได้ในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ และจะทราบราคาจองซื้อหุ้นในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ สำหรับเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นครั้งนี้จะนำไปปรับปรุงโรงงานใหม่ ชำระหนี้และใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน
อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคตนั้นบริษัทมีแผนที่จะเปิดร้านอาฟเตอร์ ยู ขนาดเล็กเพื่อขายขนมหวานแบบสามรรถนำกลับบ้านโดยไม่มีที่นั่งทานในมหาวิทยาลัย อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล เป็นต้น โดยตั้งเป้าปี 2561 จะมีร้านค้าทั้งสิ้น 30 ร้านค้า จากปัจจุบันมีอยู่ 20 ร้านค้า ลงทุนสาขาละ 4.5-7.5 ล้านบาทและจะคืนทุนภายใน 1-2 ปี โดยจะเน้นขยายไปยังกรุงเทพและปริมณฑล รวมทั้งหัวเมืองใหญ่ในประเทศ และมีความฝันที่จะขยายไปยังต่างประเทศด้วย
สำหรับเมนูขนมหวานนั้นตั้งเป้าสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ได้ปีละ 6-8 เมนู โดยจะพยายามออกเมนูใหม่ให้ได้เดือนละ 1 เมนู โดยมีกลยุทธ์คือเมนูที่ลูกค้าชื่นชอบจะอยู่ในร้านนานกว่า 1 เดือน ส่วนการบริหารจัดการร้านค้านั้นเตรียมลงทุนระบบใหม่เพื่อให้การจัดการดีขึ้น ซึ่งการจัดการที่ดีขึ้นจะช่วยลดเวลาการรอคิวยาวหรือไม่นั้น ในแง่การบริหารบริษัทไม่ต้องการให้แต่ละสาขามีคิวยาวมากและต้องการให้รอเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น เนื่องจากเมื่อปล่อยให้ลูกค้ารอนานแล้วลูกค้าจะหงุดหงิดทำให้การจัดการภายในต้องเร่งรีบ
ทั้งนี้ ยอมรับว่าที่ผ่านมามีร้านค้าที่เป็นคู่แข่งทั้งโดยตรงและโดยอ้อม เช่น มีผู้เล่นรายใหญ่เปิดร้านค้าขนมหวานในสไตล์เดียวกัน มีกลุ่มลูกค้าเดียวกัน แต่ยังไม่พบว่ามีผู้ประกอบการเจ้าใดที่อยู่ได้นาน ซึ่งทางร้านมีจุดเด่นคือจะใส่ใจรายละเอียดในแต่ละเมนูมากกว่า
ด้านนายอิสสระ หวั่งหลี หัวหน้าฝ่ายตลาดทุนสายงานวาณิชธนกิจ ในฐานะที่ปรึกษาการเงินบริษัท อาฟเตอร์ ยู เปิดเผยว่า สาเหตุที่ผู้ถือหุ้นเดิมเลือกขายหุ้นจำนวนมากถึง 52.5 ล้านหุ้นในวันแรกให้กับนักลงทุนสถาบันโดยเลือกไม่ขายนอกกระดานก่อนเข้าซื้อขายนั้น ส่วนหนึ่งเพราะบริษัทไม่ได้ต้องการเงินจำนวนมากนัก แต่ยังต้องการให้มีสภาพคล่องหุ้นในตลาดอยู่ และการขายหุ้นในกระดานจะช่วยลดภาระภาษีให้กับผู้ขายและผู้ซื้อด้วย
