‘ช้างศึก’เสียท่าบุกพ่าย’อิเหนา’1-2 ‘มุ้ย’ซัดรวม15ตุงทาบรองดาวซัลโวศึกอาเซียน-นัดที่สองชี้ชะตา17ธ.ค.

ทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ดีกรีแชมป์เก่า 4 สมัย ลงสนามทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016” รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก พบ “อิเหนา” อินโดนีเซีย ที่ปากันซารี สเตเดียม เมืองโบกอร์ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ท่ามกลางแฟนบอลเจ้าถิ่นในสนามกว่า 3 หมื่นคน

สถิติที่ทีมไทยเคยพบอินโดนีเซียทั้งหมด 75 ครั้ง ไทยชนะ 36 ครั้ง เสมอ 14 ครั้ง แพ้ 25 ครั้ง ยิง 133 ประตู และเสีย 84 ประตู ขณะที่ในศึกชิงแชมป์อาเซียนเคยเจอกัน 8 ครั้ง ไทยชนะ 6 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง แพ้ 1 ครั้ง ยิงได้ 21 ประตู และเสีย 10 ประตู โดยครั้งล่าสุดเพิ่งเจอกันในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 รอบแรก ซึ่งทีมไทยชนะ 4-2 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา

เกมนี้ “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมไทยจัดทัพระบบ 4-2-3-1 นำโดยผู้รักษาประตู กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ กองหลัง ธีราทร บุญมาทัน, กรวิทย์ นามวิเศษ, อดิศร พรหมรักษ์, ทริสตอง โด กองกลาง สารัช อยู่เย็น, ปกเกล้า อนันต์ ตัวริมเส้น เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, ศราวุฒิ มาสุข ตัวรุก “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ และศูนย์หน้าตัวเป้า “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ดาวซัลโวที่ยิงไปแล้วในทัวร์นาเมนต์นี้ 5 ประตู

ขณะที่อินโดนีเซียภายใต้การคุมทีมของ อัลเฟรด รีเดิล กุนซือชาวออสเตรีย ยึดผู้เล่นชุดเดิมในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน โดยผู้รักษาประตู คูร์เนีย ไมก้า กองหลัง อับดูห์ เลสตาลูฮู, ฟัชรูดิน อาร์ยันโต้, ฮันซามู ยาม่า ปรานาต้า, เบนนี่ วัชยูดี้ กองกลาง บายู ปราดาน่า, มานาฮาตี้ เลสตูเซ่น, ริซกี้ โพร่า, สเตฟาโน่ ลิลิพาลี่, อันดิค เวอร์มันซาห์ และศูนย์หน้าตัวเป้า โบอัซ โซลอสซ่า เป็นกัปตันทีมด้วย

Advertisement

ครึ่งแรกนาทีที่ 7 ทีมไทยสร้างจังหวะบุกเข้าทำครั้งแรก ธีราทรโยนบอลเข้าไปก่อนที่กองหลังเจ้าถิ่นสกัดบอลไปเข้าทางทริสตอง โด ซัดบอลข้ามคานไป จนนาทีที่ 33 ทีมไทยบุกมาพังประตูนำก่อน 1-0 ธีราทรโยนบอลยาวจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าไปให้ธีรศิลป์ลอยตัวพุ่งโหม่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายเป็นประตูที่ 6 ของธีรศิลป์ในทัวร์นาเมนต์นี้ และเป็นการยิงประตูรวมในศึกชิงแชมป์อาเซียน 15 ประตู เทียบเท่ากับ 2 นักเตะรองดาวซัลโวตลอดกาล “โย่ง” วรวุฒิ ศรีมะฆะ อดีตศูนย์หน้าร่างโย่งทีมชาติไทย และเล คองวินห์ อดีตศูนย์หน้าเวียดนามที่เพิ่งประกาศอำลาทีมชาติ ส่วนดาวซัลโวสูงสุดยังเป็น นอห์ อลัม ชาห์ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติสิงคโปร์ 17 ประตู

ครึ่งหลังอินโดนีเซียแก้เกมด้วยการไล่บีบแย่งบอลเร็ว และเข้าบอลหนักมากขึ้น แต่ผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่น อีดะ จุมเป ยังไม่ควักใบเหลืองแจกนักเตะเจ้าถิ่น นาทีที่ 62 ธีรศิลป์กระชากบอลเข้าไปแล้วแทงต่อให้ศราวุฒิได้โอกาสซัดเต็มข้อ แต่บอลติดเซฟนายทวารอินโดนีเซีย กระทั่งนาทีที่ 65 ธีราทรจ่ายบอลเข้ากลางพลาดโดนริซกี้ โพร่า ฉกบอลลากหลบสารัชแล้วซัดแฉลบทริสตอง โด ทำให้บอลเปลี่ยนทางหนีมือกวินทร์เข้าประตูไปให้อินโดนีเซียตีเสมอ 1-1 นาทีที่ 70 อินโดนีเซียแซงขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะเตะมุมบอลลึกไปเสาสองเข้าทางฮันซามู ยาม่า ปรานาต้า เติมเกมรุกขึ้นมาโขกบอลย้อยเข้าไป

นาทีที่ 73 ทีมไทยแก้เกมรุกด้วยการส่ง “ปีโป้” สิโรจน์ ฉัตรทอง ลงมาเล่นแทนศราวุฒิ และนาทีที่ 80 ทีมไทยส่งชาริล ชัปปุยส์ ลงมาคุมเกมแดนกลางแทนปกเกล้า แต่ช่วงเวลาที่เหลือไม่สามารถไล่ยิงประตูตีเสมอได้ จบเกมทีมไทยบุกพ่าย อินโดนีเซีย 1-2 แต่ถือว่าทีมไทยยังได้เปรียบอเวย์โกลด์

Advertisement

โดยนัดที่สองจะกลับมาแข่งขันกันชี้ชะตาแชมป์กันที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 17 ธันวาคม เวลา 19.00 น. ทั้งนี้ ทัพนักเตะทีมชาติไทย พร้อมด้วยสต๊าฟโค้ชจะเดินทางด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ทีจี 434 จากประเทศอินโดนีเซียกลับมายังสนามบินสุวรรณภูมิ วันที่ 15 ธันวาคม เวลา 16.35 น.

15515984_10210227805230343_1281984759_o

15536889_10210227805270344_454624773_o

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image