เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับสำนักการโยธา สำนักงานเขตพระนคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามความคืบหน้าแผนการดำเนินการรื้อย้ายชุมชนในป้อมมหากาฬ ภายหลังจากที่สำนักการโยธา สำนักงานเขตพระนคร ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ติดตั้งป้ายประกาศให้บ้านเรือนที่อาศัยในชุมชนป้อมมหากาฬย้ายออกจากพื้นที่ ซึ่งขณะนี้มีจำนวนบ้านที่ยังไม่ได้รื้อถอนอีก 37 หลังคาเรือน รวมทั้งมีการบุกรุกสร้างใหม่อีก 5 หลังคาเรือน โดย กทม.จะเข้ารื้อถอนในต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2560
นายจักกพันธุ์ กล่าวถึงกรณีที่ชาวชุมชนร้องขออยู่ต่อในพื้นที่เดิมว่า ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนป้อมมหากาฬพร้อมด้วยกำแพงเมืองเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2492 ดังนั้น กทม.จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยจะพัฒนาพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬเป็นสวนสาธารณะในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของพื้นที่บริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ พร้อมทั้งจัดให้มีพื้นที่สันทนาการ แหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม วิถีชีวิตรอบเกาะรัตนโกสินทร์ด้วย
“กทม.ขอให้ชาวชุมชนให้ความร่วมมือในการรื้อถอนโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างในบริเวณชุมชนป้อมมหากาฬ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และสามารถใช้ประโยชน์ได้ ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยจะเป็นหน่วยงานหลักประชุมวางแผนร่วมกับ กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกันพิจารณาดำเนินการให้ประชาชนย้ายออกไปโดยไม่เดือดร้อน ส่วนกรณีที่ชุมชนจะอยู่คู่กับโบราณสถานนั้น สามารถดำเนินการได้แต่ชุมชนไม่สามารถอยู่ในโบราณสถานได้” นายจักกพันธุ์ กล่าว
