นักวิเคราะห์ ชี้ บิ๊กตู่ อาจต้องใช้เงินส่วนตัวนับหมื่นล้าน ชดใช้ปม ม.44 ปิดเหมืองทองอัครา

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊ก กรณี บริษัท คิงส์เกต สัญชาติออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส จะยื่นฟ้องรัฐบาลไทย เพื่อเรียกร้องค่าชดเชย ภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจมาตรา 44 สั่งปิดเหมืองทองชาตรี ทั้งที่ไม่มีการแจ้งเหตุผลเพียงพอ โดยนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่า อย่าเพิ่งฟ้องร้องตอนนี้เลย เพราะรัฐบาลไม่ได้สั่งหยุด แต่ให้แค่ชะลอไปก่อน

โดยนายโสภณ เห็นว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือคำสัมภาษณ์ของท่านนายกฯ 1. บอกว่าแค่ไปชะลอ ทั้งที่สั่งปิดไปแล้ว ถือว่าขัดแย้งกันเอง จน บมจ.อัครา ต้องให้พนักงานออกนับพันคน 2. ยังไม่มีความชัดเจนก็สั่งปิด แสดงว่าขาดเหตุผลและวิจารณญาณเท่าที่ควร 3. บอกว่าต้องดูแลประชาชน ทั้งที่ประชาชนส่วนใหญ่ถึง 78% เห็นด้วยกับการมีอยู่ของเหมือง แสดงว่ารัฐบาล ไม่ได้ทำตามความต้องการของประชาชน

ดังนั้น การใช้อำนาจตาม ม.44 ของ คสช. อาจอ้างได้ในราชอาณาจักรไทย แต่ไม่เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ในระดับนานาชาติหรือในเวทีโลก ศาลระหว่างประเทศคงไม่พิจารณาเป็นคุณต่อท่านนายกฯ โอกาสที่ท่านจะต้องชดใช้ค่าเสียหายโดยใช้เงินส่วนบุคคลเพราะเป็นผู้ออกคำสั่งด้วยตนเองเพียงผู้เดียวอาจสูงมาก เพราะไม่ได้ทำตามผลประโยชน์ของประชาชน เช่น การจำนำข้าวที่ชาวนาได้ประโยชน์ กรณีเหมืองทองคำนี้น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง เพราะ ปีหนึ่งๆ รัฐบาลได้ภาษีมหาศาล ประชาชนนับพันๆ มีงานทำ ส่งผลดีต่อชุมชนหลายพันคน ทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่น เฟื่องฟูเป็นอย่างมาก ประชาชนไม่ต้องหนีเข้าเมืองไปทำงาน ชุมชนไม่แตกสลาย สิ่งแวดล้อมก็ไม่เสียหาย พืชผักน้ำก็ยังดื่มกินได้ ต่างจากที่กลุ่มเอ็นจีโอโพนทะนา แถมอาจจะต้องเสียค่าปรับนับหมื่นล้านอีกต่างหาก ทีมกฏหมายของรัฐบาลควรต้องเตรียมรับมือให้ดีกับการฟ้องร้องนี้ ซึ่งอาจกระทบเกียรติภูมิของชาติไปด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image