เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สำนักงานประธานาธิบดีไต้หวันแถลงในวันเดียวกันว่า ประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ของไต้หวัน จะแวะพักเปลี่ยนเครื่องที่เมืองฮิวสตันและซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในระหว่างที่ผู้นำไต้หวันจะเดินทางเยือนชาติพันธมิตรในภูมิภาคละตินอเมริกาที่กำหนดจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 7-15 มกราคมปีหน้า
การเปิดเผยกำหนดการเยือนต่างประเทศดังกล่าวของผู้นำไต้หวันที่มีการแวะพักที่ประเทศสหรัฐด้วย อาจเป็นการยั่วยุให้จีนแสดงความโกรธเกรี้ยวไม่พอใจขึ้นอีกได้ หลังจากเมื่อเร็วๆนี้ ทางการจีนเพิ่งออกมาเรียกร้องให้สหรัฐขัดขวางการแวะหยุดพักการเดินทางของผู้นำไต้หวันในดินแดนสหรัฐมาแล้ว
อเล็กซ์ หวง โฆษกสำนักงานประธานาธิบดีไต้หวัน เปิดเผยในระหว่างการแถลงข่าวว่า ประธานาธิบดีไช่จะเดินทางจากไต้หวันถึงเมืองฮิวสตันของสหรัฐในวันที่ 7 มกราคม และจะเดินทางออกไปในอีกวันถัดมา และในช่วงขากลับหลังเสร็จสิ้นการเยือนประเทศในละตินอเมริกา ประธานาธิบดีไช่จะเดินทางถึงนครซานฟรานซิสโกในวันที่ 13 มกราคม ก่อนกลับไต้หวัน
อย่างไรก็ดี สำนักงานประธานาธิบดีไต้หวันปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่าผู้นำไต้หวันจะพบปะกับทีมงานคนใดของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีไต้หวันหรือไม่ ในระหว่างที่ผู้นำไต้หวันแวะเปลี่ยนเครื่องบินที่สหรัฐ
ขณะที่สถาบันอเมริกันในไต้หวัน(เอไอที) ซึ่งเป็นหน่วยงานของทางการสหรัฐประจำไต้หวัน เปิดเผยว่า การเดินทางเยือนดังกล่าวของประธานาธิบดีไต้หวันเป็นการเยือนส่วนตัวและไม่เป็นทางการ
“การแวะเปลี่ยนเครื่องของประธานาธิบดีไช่ในสหรัฐตั้งอยู่บนหลักปฏิบัติของสหรัฐที่มีมายาวนานและสอดคล้องกับความสัมพันธ์อย่างไม่เป็นทางการที่มีต่อไต้หวัน” โฆษกเอไอทีกล่าว
ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์ได้สร้างความขุ่นเคืองให้กับรัฐบาลจีนอย่างมาก จากการพูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้นำไต้หวันที่โทรมาแสดงความยินดีต่อชัยชนะของนายทรัมป์ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งผิดจากธรรมเนียมปฏิบัติที่เคยมีมาของสหรัฐและทำให้จีนเกิดความกังขาในพันธกรณีของสหรัฐที่มีต่อนโยบายจีนเดียวของจีน