‘ปนัดดา’แนะขรก. ครูอาจารย์ ผู้ปกครอง เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท พอเพียง ไม่ฟุ้งเฟ้อ บ้านเมืองพัฒนา

ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานพิพิธภัณฑ์และหอสมุดสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งแก่ ข้าราชการ ครูอาจารย์ นักเรียนนิสิต นักศึกษา และนักเรียนนายร้อย รร.จปร.ในโอกาสเข้าทัศนศึกษาพิพิธภัณฑ์วังวรดิศ ถนนหลานหลวง เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ว่า “การยึดความประหยัด ตัดทอนค่าใช้จ่ายในทุกด้าน ลดละความฟุ่มเฟือยในการดำรงชีพอย่างจริงจัง ดังพระราชดำรัสคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ว่า ความเป็นอยู่ที่ต้องไม่ฟุ้งเฟ้อ ต้องประหยัดไปในทางที่ถูกต้อง กับอีกยึดถือการประกอบสัมมาชีพด้วยความถูกต้อง สุจริต ความเจริญของคนทั้งหลาย ย่อมเกิดมาจากการประพฤติชอบ และการหาเลี้ยงชีพชอบเป็นหลักสำคัญ การที่บุคคลต้องขวนขวายหาความรู้และสร้างตนเองให้มั่นคงนี้เพื่อตนเองและสังคม เพื่อที่ตัวเองมีความเป็นอยู่ที่ก้าวหน้า ยึดมั่นความซื่อตรง ความกตัญญู และความรับผิดชอบทั้งแก่ชีวิตตน ครอบครัว และประเทศชาติ

หากทุกๆ คน ซึ่งได้แก่ ข้าราชการ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ครูอาจารย์ ผู้ปกครอง จะได้ช่วยกันขยายผลตามแนวพระราชดำริข้างต้น เพื่อให้ลูกหลานนักเรียน นิสิต นักศึกษา ได้ร่วมใจกันยึดมั่นการดำรงชีวิตของเยาวชน ตราบจนสำเร็จการศึกษา มีความรอบรู้ เกี่ยวกับวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ความรู้ความเข้าใจที่จะนำมาให้เกิดการเชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนเมื่อตนต้องปฏิบัติหน้าที่จริง และมุ่งมั่นปฏิบัติในวิชาชีพที่ตนมีความถนัด ตามแนวพระราชดำริ สังคมไทยจะมีเข็มทิศชีวิตที่มุ่งเดินหน้าประเทศอย่างสร้างสรรค์ สังคมธรรมรัฐจะเป็นตัวขับเคลื่อนวิถีการดำรงชีวิตของผู้คนไปสู่ทิศทางที่เป็นความหวังของคนในชาติ ผู้ใหญ่สามารถนอนตาหลับได้สนิท ไม่มีความเป็นห่วงกังวลว่า ประเทศชาติจะเดินหน้ากันไปอย่างไร แบบอย่างหรือ ‘ไอดอล’ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ไม่มีไม่ได้ สิ่งนี้นั้น ผู้ปกครองและครูอาจารย์ย่อมถือเป็นต้นแบบที่ดีและยั่งยืนแก่ลูกหลานและศิษย์ เมื่อลูกหลานเป็นผู้มีความรับผิดชอบทั้งแก่ตนเองและส่วนรวม ชาติบ้านเมืองย่อมเกิดการพัฒนาได้ในทุกๆ เรื่อง หรือหลายๆ เรื่อง สามารถติดตามประเมินผลได้อย่างเป็นระบบแบบแผน โดยมุ่งเน้นการมีความรอบรู้ทางหลักวิชาการของแต่ละคนในแต่ละความถนัด และยึดมั่นหลักคุณธรรมค้ำจุนสังคมในการดำเนินชีวิต ที่ถือเป็นแบบฉบับของคนไทยมาช้านาน ปรัชญาความพอเพียงจึงถือเป็นคำตอบแก่เราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการพึ่งพาตนเอง ความพอประมาณ การเดินสายกลาง ความไม่ประมาทโดยมีภูมิคุ้มกันหรือมีเกราะป้องกันตัว การมีเหตุผล เป็นคนดี และมีความรู้รักสามัคคี สรุปได้ว่า อนาคตในวันนี้จึงขึ้นอยู่กับความเพียรพยายาม ความซื่อตรง และความมีจรรยาบรรณวิชาชีพของทุกผู้ทุกฝ่าย ที่ผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างแก่ลูกหลานเยาวชน ที่ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรกทางการศึกษาต่อการพัฒนาประเทศ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image