‘สปท.การเมือง’ชงจำหน่ายคดีให้โอกาส’กลับตัว-สร้างปรองดอง’ ก.พ.ได้ข้อสรุปนิรโทษฯ

เมื่อวันที่ 3 มกราคม นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) กล่าวว่า แนวทางการปฏิรูปเพื่อสร้างความปรองดองของสปท.มีความคืบหน้าไประดับหนึ่งแล้ว ที่ประชุมสปท.การเมืองได้ตั้งคณะกรรมาธิการเต็มคณะเพื่อพิจารณาแนวทางดังกล่าว โดยวางหลักการสร้างความปรองดองแยกเป็นกลุ่มๆได้แก่ ในส่วนแกนนำชุมนุม หากมีคดีติดตัวจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาล ส่วนระดับประชาชนทั่วไป จะแยกตามความหนักเบาของคดี หากเป็นคดีที่มีความผิดร้ายแรงอาทิ มาตรา 112 คดีทุจริต ความผิดอาญาร้ายแรงเผาบ้านเผาเมือง เป็นความผิดที่ประชาชนรับไม่ได้ จะต้องถูกดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมเช่นกัน ไม่อยู่ในเกณฑ์ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ อย่างไรก็ตามหากเป็นคดีในส่วนประชาชนทั่วไปที่มีอัตราโทษไม่รุนแรง มีโทษจำคุก 3-5 ปี เช่น การฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินไปชุมนุมทางการเมือง คดีที่อยู่ในอำนาจพิจารณาศาลแขวง หรือกรณีการขัดคำสั่งไม่ไปรายงานตัว สปท.การเมืองได้เสนอแนวทางลดหย่อนการลงโทษ อาทิ คดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาไต่สวนของศาล จะขอให้ศาลจำหน่ายคดีระหว่างการสืบพยานไว้ชั่วคราว เพื่อให้โอกาสผู้กระทำผิดกลับตัว แต่มีเงื่อนไขว่า ระหว่าง 3-5 ปี ห้ามไปกระทำความผิดซ้ำ ทั้งการไปร่วมการชุมนุม การปลุกระดมข่มขู่ ขอย้ำว่าเป็นแนวทางลดหย่อนให้เฉพาะประชาชนในคดีที่มีอัตราโทษไม่รุนแรงเท่านั้น ไม่รวมถึงแกนนำที่จะต้องไปสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม

นายเสรี กล่าวอีกว่า ส่วนแนวทางการใช้อำนาจมาตรา 44 เพื่อนิรโทษกรรมแก่ประชาชนที่ไปร่วมชุมนุมทางการเมืองนั้น อยากให้ใช้แนวทางตามกฎหมายปกติไปก่อน แต่อยู่ที่นโยบายของรัฐบาลด้วย หากต้องการความรวดเร็วสามารถใช้อำนาจตามกฎหมายพิเศษได้ ทั้งนี้แนวทางดังกล่าวเป็นเพียงแค่หลักเกณฑ์ที่สปท.การเมืองวางไว้เบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่ใช่ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ จะต้องรอการประชุมหารือเพื่อหาข้อยุติต่อไป คาดว่าจะได้ข้อสรุปก่อนที่สปท.จะหมดวาระการทำงานในเดือนกุมภาพันธ์นี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image