ถอดรหัสคำพูด′บิ๊กตู่′ ′ขอโทษพี่หมอทุกคน′

หมายเหตุ – เป็นประเด็นคำถามทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาขอโทษพี่หมอ…หลังจากเกิดกรณีการออกคำสั่งอาศัยอำนาจ ม.44 ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พ้นจากตำแหน่ง 7 คน จนเกิดคำถามว่า พี่หมอที่ถูกอ้างถึงคือใคร มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็น ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ที่เคยออกมาตำหนิว่าการปลดกรรมการหรือการกระทำใดๆ ส่งผลต่อภาคประชาชนไม่ควรดำเนินการ รวมไปถึง นพ.มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ก็ออกมาตัดพ้อว่า ยุคนี้ไม่สามารถแสดงออกใดๆ ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยร่วมเดินขบวนประท้วงกรณีชัตดาวน์กรุงเทพฯ มาแล้ว

นพ.วิชัย โชควิวัฒน - ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา
นพ.วิชัย โชควิวัฒน – ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา

นพ.วิชัย โชควิวัฒน

อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและรองประธานคนที่ 2 คณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

เท่าที่มีข้อมูล คาดว่าจากกรณีนายกรัฐมนตรีออกคำสั่งวันที่ 5 มกราคม ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน สสส.พ้นจากตำแหน่ง 7 คนนั้น ปรากฏว่าเกิดปฏิกิริยาต่างๆ มากมาย ซึ่งเข้าใจว่านายกรัฐมนตรีทราบ และทราบดีว่าอาจเป็นความผิดพลาดก็เป็นได้ ส่วนการตัดสินใจปลดบอร์ดฯ 7 คนนั้น ตนคิดว่าอาจมีผู้เสนอหรือชงข้อมูลเข้าไป ซึ่งข้อมูลอาจคลาดเคลื่อนและทำให้ตัดสินใจเร็วเกินไปนั่นเอง ส่วนจะขอโทษใครนั้น เดาว่าน่าจะเป็น ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ซึ่งก็มีความอาวุโสกว่านายกรัฐมนตรี เพราะอายุกว่า 80 ปีแล้ว ขณะที่ นพ.มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการ สธ. ก็อายุมากกว่าเช่นกัน รวมทั้งตนเองอายุใกล้จะ 69 ปีแล้วด้วย

“นอกจากนี้ อาจมีประเด็นการปลดคณะกรรมการกองทุนฯทั้ง 7 ท่าน ทำให้การดำเนินงานของ สสส.ต้องหยุดชะงัก เพราะไม่สามารถประชุมคณะกรรมการกองทุนฯได้เนื่องจากองค์ประกอบไม่ครบ ดังนั้น จึงต้องดำเนินการให้ สสส.จัดประชุมได้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณและเป็นจุดตั้งต้นที่ดี โดยส่วนตัวแล้วก็หวังที่จะทำอย่างไรให้ สสส.กลับมาทำงานได้ตามปกติตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย อย่างไรก็คงต้องติดตามกันต่อไป”

ก่อนหน้าจะมีคำสั่งมาตรา 44 ออกมา บอร์ด สสส.มีมติการปรับปรุงระเบียบ และกำหนดให้กรรมการในบอร์ด สสส.เลือกนั่งตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งระหว่างบอร์ดฯ หรือมูลนิธิฯ ซึ่งผมทำงานหลายที่ พิจารณาแล้วว่าควรออกจาก สสส.ดีกว่า แต่มาตรา 44 ออกคำสั่งมาก่อน อย่างไรก็ตาม หากต้องกลับไปดำรงตำแหน่งเดิม ผมมองว่าอาจเข้าไปช่วยให้งานเดินหน้าต่อไป แต่ผมก็จะแสดงเจตนารมณ์ลาออกจากบอร์ด สสส.อยู่ดี แต่ในความเป็นจริงอาจไม่มีคำสั่งแบบนี้ก็ได้ เพราะข่าวก็ยังสับสนอยู่ว่า ตกลงนายกรัฐมนตรีจะมีคำสั่งให้เดินหน้ารูปแบบใดกันแน่

Advertisement

ถ้าดูตามคำสั่ง มาตรา 44 กำหนดชัดว่ากระบวนการสรรหาให้เป็นไปตามผู้มีอำนาจหน้าที่สรรหาตามระเบียบที่กำหนดไว้เดิม ซึ่งระเบียบฯของ สสส. กำหนดองค์ประกอบไว้ชัดเจน ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนภาคี ผู้แทนเจ้าหน้าที่ และบุคลากรต่างๆ ตามองค์ประกอบกำหนด อีกทั้งหากดูจากขั้นตอนการสรรหาผู้จัดการกองทุน สสส. เพื่อดำรงตำแหน่งแทน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. ที่ดำเนินการแล้วเสร็จแล้วนั้น เท่าที่ตนได้ติดตามก็ไม่พบว่ามีกระบวนการที่พยายามแทรกแซงแต่อย่างใด

ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา

ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และนายกแพทยสภา

ขอออกความเห็นในนามส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับองค์กรใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากตนเป็นแพทย์คนหนึ่งที่อยู่ในแวดวงสาธารณสุข รับทราบข้อมูลต่างๆ และเชื่อว่าหมอเกินครึ่งก็คิดแบบเดียวกันว่า สสส.ควรถูกตรวจสอบ แม้นายกฯจะออกมาขอโทษพี่หมอ ซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่เข้าใจว่าคนละเรื่องคนละส่วนกับการตรวจสอบการทำงานของ สสส. เนื่องจากองค์กรนี้แม้จะเป็นองค์กรที่ดี แต่มี พ.ร.บ.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ.2544 ที่เป็นคนกลุ่มหนึ่งเขียนกฎหมายขึ้น ซึ่งการออกระเบียบต่างๆ ย่อมทำให้การตรวจสอบการใช้เงินอยู่ในขอบเขตที่ตรวจสอบค่อนข้างยาก แม้ที่ผ่านมาบอกว่ามีระบบตรวจสอบจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน แต่ถามว่าตรวจอย่างละเอียดหรือไม่ ประกอบกับกฎหมายนี้ใช้มานาน 14 ปี ก็ควรต้องปรับแก้กฎหมายได้แล้ว ไม่ใช่บอกว่าเป็นองค์กรที่ดี แต่หน่วยงานภายนอกเข้ามาตรวจสอบยาก แบบนี้ก็ไม่ถูกต้อง

“ที่ผ่านมาคนในวงการทราบดีว่า สสส.ให้ทุนสนับสนุนภาคีเครือข่ายทำโครงการต่างๆ แต่ปรากฏว่าเป็นภาคีหน้าเดิมๆ และพอใครออกมาต่อว่าก็จะบอกว่าเพราะไม่ได้รับเงินสนับสนุน จริงๆ ผมมองว่าเดิมอาจคิดว่าคนเก่งๆ ทำเรื่องสุขภาพมีน้อย แต่ปัจจุบันประชาชนคนไทยมีจำนวนมาก จะไม่มีคนเก่งคนที่ทำงานได้ดีเลยหรืออย่างไร จึงถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยนได้แล้ว”

Advertisement
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ-พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา-นิมิตร์ เทียนอุดม
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ-พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา-นิมิตร์ เทียนอุดม

นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ

กรรมการชมรมแพทย์ชนบท และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา

กรณีที่นายกรัฐมนตรีออกมาขอโทษน่าจะเกี่ยวข้องกับการปลดบอร์ด สสส.ทั้ง 7 คน แต่ไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องแช่แข็งงบประมาณโครงการ สสส.ด้วยหรือไม่ อย่างไร ซึ่งต้องติดตามว่าวันที่ 18 มกราคมจะเกิดอะไรขึ้น และนายกรัฐมนตรีจะมีคำสั่งออกมาอย่างไร แต่ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะมีการแต่งตั้งบอร์ด สสส.ทั้ง 7 คนที่ถูกปลดออกไปให้กลับมานั่งทำงานตามเดิม อย่างไรก็ตาม คาดว่านายกฯจะแต่งตั้งบอร์ด สสส.คนเดิมกลับมานั่งทำงาน เพราะทั้ง 7 คนไม่ได้มีความผิดใดๆ และหวังว่านายกฯจะสั่งยกเลิกคำสั่ง คตร. ในกระบวนการตรวจสอบ สสส. ทั้งเรื่องระงับการจ่ายเงินโครงการและการที่กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลังกับมูลนิธิและองค์กรต่างๆ ที่ได้รับทุนจาก สสส. เพื่อให้ทุกอย่างกลับมาตามเดิม และให้งาน สสส.เดินหน้าอย่างที่ควรจะเป็นต่อไป

พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา

ประธานสหพันธ์ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขแห่งประเทศไทย (สผพท.)

ท่าทีของนายกฯ ครั้งแรกขอโทษแล้วขอโทษอีก ทำให้คนเข้าใจผิดว่านายกฯขอโทษเพราะทำผิดที่ไปปลดเขาออก และจะให้กลับเข้ามาทำงาน แต่ก็มาพูดใหม่ว่าขอโทษที่ทำให้โครงการบางอย่างไม่สามารถอนุมัติได้เพราะมีบอร์ดที่เหลือไม่ครบ แต่ยอมรับว่าท่านเป็นสุภาพบุรุษ ที่เมื่อเห็นว่าอะไรที่ทำไม่ถูกแล้วก็พร้อมที่จะขอโทษ ท่านมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาสิ่งที่ผิด สิ่งที่เป็นข้อครหาเกี่ยวกับเรื่องคอร์รัปชั่นให้ดีขึ้น เพราะถ้ามีการทุจริตคอร์รัปชั่นหรือผลประโยชน์ทับซ้อน ผู้ที่เสียผลประโยชน์คือประเทศชาติและประชาชน ดังนั้น นายกฯจึงพยายามรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอยู่ แต่ถ้ากลับไปกลับมา หรือพูดไม่ชัดเจนก็จะทำให้เกิดความงุนงงในเรื่องมาตรฐานความดี ความถูกต้อง ความสุจริตโปร่งใส ธรรมาภิบาลอยู่ตรงไหน เช่นเดียวกับกรณีที่ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ อดีตผู้จัดการ สสส. ที่อ้างว่าลาออกไปเพื่อให้มีการตรวจสอบ สสส.ได้อย่างสะดวก แต่กลับไปสมัครเป็น ผอ.ไทยพีบีเอส ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์จนขาวสะอาด ทำให้เกิดความสงสัยเรื่องการสรรหาของไทยพีบีเอสเช่นเดียวกัน

นิมิตร์ เทียนอุดม

ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์

รู้สึกดีที่มีการขอโทษ คนที่เป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจอะไรพลาดไปมาทบทวนแล้วขอโทษเป็นเรื่องดี แต่ขอโทษอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีกระบวนการจัดการทำในสิ่งที่ผิดให้กลับมาถูก จะรอดูว่ากระบวนการต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ถ้าไม่มีกระบวนการต่อจากนี้ คำขอโทษก็ไม่มีความหมายอะไรเลย และวันที่ 18 มกราคมนี้จะประชุมได้จริงไหม แล้วสาระสำคัญของการประชุมจะเป็นอย่างไร รวมทั้งต้องดูความเป็นธรรมของกรรมการที่ถูกปลดไปด้วย ดังนั้น หลังจากคำขอโทษ สิ่งสำคัญต้องติดตามเรื่องขั้นตอนและกระบวนการสู่การแก้ไขสิ่งที่ทำพลาดไปด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image