ถึงแม้ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ.
จะยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่า
“การกำหนดระยะเวลาของโรดแมปขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”
1 ในฐานะที่เป็น “หัวหน้าคสช.”
และ 1 ในฐานะที่เป็น “หัวหน้ารัฐบาล” ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งเป็น “นายกรัฐมนตรี”
แต่กรณีของ “โรดแมป” ก็ยังมีความจำเป็นเป็นอย่างสูง
มีความจำเป็นที่จะต้องสนใจบทบาท 1 นายมีชัย ฤชุพันธุ์ และ 1 บทบาท นายวิษณุ เครืองาม
ในฐานะที่ 2 คนนี้ คือ “เนติบริกร” ระดับ “เอ้”
ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องฟังจาก 2 คนนี้
จะเข้าใจ “ตัวแปร” ก็ต้องเข้าใจ 2 คนนี้
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า บุคคลใดเป็นคนคิดประดิษฐ์สร้างคำว่า “ตัว แปร” และระบุว่า จะมีผลสะเทือนต่อ “โรดแมป”
ตอบได้เลยว่า คือ นายวิษณุ เครืองาม
ผลจากที่ นายวิษณุ เครืองาม คิดประดิษฐ์สร้างคำว่า “ตัวแปร”นั้นเองจึงนำไปสู่ “การเคลื่อนไหว”
เคลื่อนไหวจาก “โหร” แห่ง “สำนักสุขิโต”
เคลื่อนไหวจาก “สนช.” คนสำคัญระดับ “รองประธาน”และระดับ “วิป”
สำทับตามด้วย “สปท.” ระดับ”คุณห้อย คุณโหน”
แม้จะยังมีคำยืนยันจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประสานกับจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
น้ำเสียงเดียวกัน “โรดแมป” ก็คือ “โรดแมป”
แต่รู้สึกหรือไม่ว่า ยิ่งยืนยันยิ่งทำให้การเลื่อน “การเลือกตั้ง”จากปลายปี 2560 เป็นในปี 2561 ยิ่งมีความเป็นไปได้
นั่นก็เนื่องมาจาก “ตัวแปร”
ไม่ว่า นายวิษณุ เครืองาม ไม่ว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ทุกจังหวะก้าวเป็นไปตามจังหวะที่ “คสช.”กำหนด
ในทาง “เปิด” ร้องเพลงเดียวกับ “คสช.”
แต่ในทาง “ไม่เปิด” นำเสนอสิ่งที่เรียกว่า “ตัวแปร”ออกมาอย่างเป็นระบบ เป็นกระบวนการ
ทั้งเรื่อง ความล่าช้าใน “กฎหมาย”
ทั้งเรื่อง เส้นทางเดินอันระหกระเหินระหว่าง “กรธ.”กับ”สนช.” อาจอยู่เหนือการควบคุม
และเรื่องการประกาศและบังคับใช้”รัฐธรรมนูญ”
และในที่สุด นายมีชัย ฤชุพันธ์ ก็ยืนยัน “ถ้าทันปีนี้คิดว่าการ เลือกตั้งจะเป็นช่วงปลายปี หรือเป็นต้นปี 2561”
นี่แหละคือ “ตัวแปร”อันมาจาก “เนติบริกร”
