ท่วมใต้กระทบล้านชีวิต! ดับแล้ว 25 ราย เตือน 9 จังหวัดเตรียมรับมือฝนตกหนัก

ปภ.เร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมแจ้งเตือน 9 จังหวัดเตรียมรับมือภาวะฝนตกหนัก

เมื่อวันที่ 10 มกราคม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ฝนที่ตกหนักตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 ถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดอุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีจังหวัดได้รับผลกระทบ 12 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง นราธิวาส ยะลา สงขลา ปัตตานี ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง กระบี่ และประจวบคีรีขันธ์ รวม 111 อำเภอ 663 ตำบล 4,993 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 369,680 ครัวเรือน 1,105,731 คน ผู้เสียชีวิต 25 ราย สูญหาย 2 ราย สถานที่ราชการเสียหาย 5 แห่ง ถนน 218 จุด คอสะพาน 59 แห่ง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 1 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ยังคงมีสถานการณ์ใน 11 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง นราธิวาส สงขลา ปัตตานี ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง กระบี่ และประจวบคีรีขันธ์ รวม 92 อำเภอ 556 ตำบล 4,299 หมู่บ้าน โดย จ.พัทลุงน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองพัทลุง ควนขนุน ปากพะยูน เขาชัยสน และบางแก้ว รวม 36 ตำบล 350 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 27,274 ครัวเรือน 64,018 คน ผู้เสียชีวิต 5 ราย นราธิวาสน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองนราธิวาส ระแงะ รือเสาะ ศรีสาคร แว้ง สุคิริน สุไหงโก-ลก สุไหงปาดี จะแนะ เจาะไอร้อง ยี่งอ ตากใบ และบาเจาะ รวม 75 ตำบล 496 หมู่บ้าน 3 เทศบาล 35 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 33,420 ครัวเรือน 131,182 คน ผู้เสียชีวิต 3 ราย

สงขลาน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ควนเนียง กระแสสินธุ์ สิงหนคร สทิงพระ และระโนด รวม 25 ตำบล 154 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,880 ครัวเรือน 26,715 คน อพยพ 19 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 2 ราย ปัตตานีน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองปัตตานี โคกโพธิ์ ยะรัง กะพ้อ หนองจิก สายบุรี แม่ลาน ไม้แก่น และทุ่งยางแดง รวม 50 ตำบล 202 หมู่บ้าน 11 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,191 ครัวเรือน 22,012 คน ตรังน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองตรัง นาโยง รัษฎา ห้วยยอด วังวิเศษ และกันตัง รวม 35 ตำบล 6 เทศบาล 264 หมู่บ้าน 15 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,756 ครัวเรือน 35,939 คน ผู้เสียชีวิต 1 คน สุราษฎร์ธานีน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี กาญจนดิษฐ์ บ้านนาสาร ดอนสัก ท่าชนะ เกาะสมุย ไชยา บ้านนาเดิม ชัยบุรี เกาะพะงัน ท่าฉาง พระแสง และชัยบุรี รวม 79 ตำบล 609 หมู่บ้าน 25 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 74,555 ครัวเรือน 220,097 คน ผู้เสียชีวิต 4 ราย นครศรีธรรมราชน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 23 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ชะอวด ทุ่งสง จุฬาภรณ์ ร่อนพิบูลย์ ท่าศาลา สิชล นาบอน พิปูน ช้างกลาง ฉวาง นบพิตำ พระพรหม เชียรใหญ่ ขนอม พรหมคีรี ลานสกา บางขัน ปากพนัง ถ้ำพรรณรา ทุ่งใหญ่ หัวไทร และเฉลิมพระเกียรติ รวม 154 ตำบล 1,284 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 125,202 ครัวเรือน 359,459 คน ผู้เสียชีวิต 6 ราย สูญหาย 1 ราย

ชุมพรน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองชุมพร ทุ่งตะโก พะโต๊ะ หลังสวน ละแม สวี ปะทิว และท่าแซะ รวม 59 ตำบล 494 หมู่บ้าน 1 เทศบาล 17 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 14,709 ครัวเรือน 47,704 คน กระบี่น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองกระบี่ เขาพนม อ่าวลึก ปลายพระยา และเกาะลันตา รวม 24 ตำบล 64 หมู่บ้าน 1 เทศบาล 2 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 97 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 2 ราย สูญหาย 1 ราย ประจวบคีรีขันธ์น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ บางสะพาน ทับสะแก และบางสะพานน้อย รวม 18 ตำบล 81 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 37,538 ครัวเรือน และระนองน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ อ.เมืองระนอง รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน โดยในภาพรวมสถานการณ์ในปัจจุบันยังมีฝนตกในพื้นที่ ระดับน้ำทรงตัวและระดับน้ำลดลงในบางพื้นที่

Advertisement

นายฉัตรชัยกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่ พร้อมรถบรรทุกขนาดใหญ่ เรือท้องแบนอำนวยความสะดวกในการสัญจรแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบและสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง รวมถึงดำเนินการซ่อมแซมถนนและสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหายให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว อย่างไรก็ตามจากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ภาคใต้ตอนบนจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก และคลื่นลมแรง โดยเฉพาะบริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา กระบี่ และตรัง ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมามีฝนตกสะสมส่งผลให้พื้นดินชุ่มน้ำ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย ดินไหลและดินถล่ม ปภ.จึงได้ประสาน 9 จังหวัดดังกล่าวแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำริมน้ำไหลผ่าน ริมชายฝั่งทะเล และพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและฝนตกสะสม พร้อมจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย สำหรับผู้ประกอบการทางน้ำและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 2-3 วัน ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชม. เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image