เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นหนึ่งที่ใครหลายคนเลือกมองที่จะซื้อให้ตัวเองเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ สำหรับ “ไอโฟน 7” และไอโฟน 7 พลัส สมาร์ทโฟนตัวเก่งจากแอปเปิลรุ่นล่าสุด
โดยไอโฟน 7 จะมีหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว และไอโฟน 7 พลัส จะมีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว สเปกโดยรวมก็เกือบๆ จะคล้ายกัน มีแตกต่างกันอยู่บ้างในบางจุด โดยเฉพาะในส่วนของกล้อง ก็จะขอเรียกรวมว่าเป็นรุ่น 7 ไปก่อน อันไหนเป็น 7 พลัส ก็จะแจ้งว่าเป็น 7 พลัส
เบื้องต้น รูปร่างหน้าตาดูจะไม่ได้แตกต่างไปจากรุ่น 6 เท่าไหร่ จะมีก็ตรงเรื่องสีของเครื่องที่แอปเปิลมีไอเดียที่เก๋ดี ตรงที่จับสีดำ (ที่คนเริ่มเบื่อ) มาทำให้กลายเป็นสีที่ตลาดต้องการอีกครั้ง หลังจากผู้คนพากันแห่ไปชอบสีขาว แล้วก็สีทอง แล้วก็สีพิงค์โกลด์ แต่รุ่น 7 กลับกลายเป็นว่าคนกลับมาสนใจสีดำกันมากขึ้น รวมไปถึงการทำสีดำรุ่นใหม่ ที่เรียกว่าเจ็ต แบล๊ก ที่จะเป็นสีดำแบบมันวาว ว่ากันว่า ตามท้องตลาด สีดำทั้งสองแบบถึงกับขาดตลาดกันเลยทีเดียว
สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมที่เห็นได้ชัดคือ เรื่องของปุ่มกดโฮมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน เพราะแต่เดิมจะเป็นเหมือนกับปุ่มกดที่ปุ่มลึกลงไป ที่เรียกว่าเป็นการกดแบบฟิสิคอล คือกดลงไปจริงๆ แต่สำหรับรุ่น 7 จะเป็นเหมือนกับแทร็กแพดมากกว่า เป็นลักษณะของการสัมผัส ที่ใช้ระบบที่เรียกว่า แท็บติก เอ็นจิน ทำให้ปุ่มนี้เป็นเหมือนกับปุ่มโฮมที่ไวต่อการตอบสนอง และรับรู้แรงกดได้หลายระดับเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เมื่อเราสัมผัสลงไปแล้ว ปุ่มนี้ก็จะสั่น แล้วแต่ค่าที่ตั้งไว้ เพื่อให้รู้ว่าเรากดปุ่มแล้ว และยังใช้เป็นที่สำหรับการสแกนลายนิ้วมือด้วย ซึ่งการรับแรงกดที่แตกต่างกันออกไปนั้น นอกเหนือจากการใช้งานกับแอพพลิเคชั่นต่างๆ แล้ว ก็ยังสามารถเอาไปเล่นกับเกมที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับเทคโนโลยีนี้
มาถึงเรื่องของการกันน้ำและฝุ่นกันบ้าง รุ่น 7 นี้สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ระดับ IP67 เรียกได้ว่า เป็นไอโฟนรุ่นแรกที่กันน้ำกันฝุ่นได้ โดยกันน้ำได้ไม่เกิน 1 เมตร เวลาไม่เกิน 30 นาที และสามารถป้องกันฝุ่นได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็เรียกได้ว่า ถ้าโดนน้ำสาดก็ทนได้ ตกน้ำ หรือเอาไปแช่น้ำก๊อก ก็ยังสามารถใช้งานได้ แต่จะให้ดีก็อย่าให้เปียกดีกว่า เพื่อความสบายใจ
อีกหนึ่งสิ่งที่แอปเปิลภูมิใจนำเสนอสำหรับไอโฟน 7 คือเรื่องของกล้อง ที่ให้ความละเอียดสูงสุดที่ 12 ล้านพิกเซล สำหรับกล้องหลัง ที่ยังคงความสามารถการถ่ายในที่มืดได้ดี มีการปรับแสงให้สว่างมากขึ้น ถ่ายในที่มืดได้อย่างสบาย ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ในกล้องดีเอสแอลอาร์ แต่จับมาใส่ไว้ในไอโฟน 7 กันเลย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแฟลชแอลอีดี 4 ดวง แบบทรูโทน ที่ทำให้การถ่ายภาพด้วยแฟลชมีความสวยมากขึ้น ไม่สว่างเว่อร์
เรื่องของกล้องนั้น รุ่น 7 กับ 7 พลัส จะต่างกันตรงที่ 7 จะมีกล้องตัวเดียว แต่ 7 พลัส จะมีกล้องหลังมาให้ 2 ตัวด้วยกัน เป็นกล้องเทเลโฟโต้ กับอีกตัวเป็นไวด์แองเกิล ที่จะช่วยทำให้ภาพดูมีมิติมากขึ้น และเป็นที่มาของฟีเจอร์ พอร์เทรต เป็นการถ่ายแบบที่เรียกว่าหน้าชัดหลังเบลอ ภาพมีมิติมากขึ้น เป็นลูกเล่นที่ทำให้การถ่ายภาพจากไอโฟน 7 พลัส สนุกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการซูม ที่รุ่นพลัสจะซูมได้ดีกว่า และมีซูมแบบออพติคอลมาได้ ที่ซูมได้ 2 เท่า กับซูมดิจิทัลอีก 10 เท่า และแม้ว่าจะซูมไกล รายละเอียดของภาพก็ยังคงชัดดีเยี่ยมแบบที่คาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว ส่วนรุ่น 7 สามารถซูมดิจิทัลได้ 5 เท่า ไม่สามารถซูมแบบออพติคอลได้
ส่วนกล้องหน้านั้น ความละเอียดสูงสุด 7 ล้านพิกเซล เป็นกล้องเฟซไทม์ เอชดี มีฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยทำให้การถ่ายภาพสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรูรับแสง f/2.2 หรือจะเป็นให้แสงได้แม้ในที่มืด เพื่อทำให้การเซลฟี่ได้ภาพที่สวยมากขึ้น รวมไปถึงระบบป้องกันการสั่นไหว การถ่ายภาพต่อเนื่อง เป็นต้น
อีกจุดที่ไม่พูดไม่ได้ คือเรื่องของพอร์ตไลท์นิ่ง ที่มาทำหน้าที่ทั้งเป็นช่องสำหรับเปลี่ยนสายชาร์จไฟและสำหรับเสียบหูฟัง ที่ทางแอปเปิลทำขึ้นสำหรับเสียบเข้ากับพอร์ตไลท์นิ่งได้ แต่ถ้าใครยังอยากใช้หูฟังแบบที่เป็น 3.5 มม.อยู่ ในกล่องก็จะมีตัวแปลงมาให้ สำหรับเสียบได้ แต่เรื่องของเรื่องก็คือ เราจะมีรูอยู่รูเดียวเพื่อใช้งานทั้งเสียบหูฟังและเสียบไฟชาร์จ จะทำสองอย่างคือใช้หูฟังและชาร์จไฟในเวลาเดียวกันไม่ได้
ขออีกจุดสุดท้ายก่อนเนื้อที่จะหมด คือเรื่องของลำโพง เพราะรุ่น 7 จะเป็นระบบสเตอริโอ โดยจะมาพร้อมกับลำโพงสองฝั่ง คือด้านบนของเครื่องและด้านล่างของเครื่อง ทำให้การฟังเสียงจากลำโพงมีมิติมากยิ่งขึ้น
ต้องบอกว่า นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของลูกเล่นที่ทางแอปเปิลจัดมาให้สำหรับรุ่น 7 ที่เชื่อเลยว่าหลายคนจะต้องชอบ เพราะนอกจากนี้ยังมีเรื่องของชิปเซตที่ทำให้การทำงานเร็วขึ้น ประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้น ที่เชื่อเลยว่าใช้แล้วต้องติดใจ และยังเพิ่มอรรถรสในการถ่ายภาพแบบที่ถ่ายที่ไหนก็สวย ถ่ายยังไงก็สวยจริงๆ
