“สมคิด”มั่นใจ “เพซ-อพอลโล”เปิดดีลลงทุน8.4พันล.เพิ่มเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการเป็นประธานในพิธีประกาศความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กับบริษัท อพอลโล โกลบอล แมเนจเมนท์ และบริษัทในเครือ ว่า การลงทุนครั้งนี้จะสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อไทย รวมถึงการสร้างโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจและการลงทุนด้านการท่องเที่ยวของไทยฝนอนาคต เนื่องจากเป็นการร่วมทุนระหว่าง เพซ ผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ และเจ้าโครงการมหานคร อาคารที่สูงที่สุดในไทยที่มีความสูง 314 เมตร กับกลุ่มบริษัทอพอลโล สถาบันการเงินอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งใช้เงินลงทุนถึง 8,400 ล้านบาท

“ขอแสดงความยินดีกับเพซ ดีเวลลอปเมนท์ ที่ร่วมลงทุนกับอพอลโล สถาบันการเงินอันดับต้นๆ ของโลก ผมมองว่าการลงทุนในครั้งนี้จะเป็นการลงทุนนำร่องในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเป็นโครงการสะท้อนถึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2560 ที่โอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจจะขยายตัวมาสู่เอเชียมากขึ้น สอดคล้องกับการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศว่าจะเป็นปีที่เร่งลงมืออย่างจริงจัง จึงคาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์” นายสมคิดกล่าว

นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ใช้เวลาในการเจรจาร่วมทุนครั้งนี้ประมาณ 7 เดือน โดยอพอลโลลงทุน 49% และเพซ 51% โดยจะนำเงินที่ได้จากการร่วมทุนดังกล่าวไปพัฒนาโครงการต่างๆ ของตึกมหานคร ประกอบด้วย โรงแรมบางกอก เอดิชั่น จุดชมวิวมหานคร ออบเซอร์เวชั่น เด็ค แอนด์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ และพื้นที่ค้าปลีก มหานครคิวบ์ อาคารไลฟ์สไตล์ความสูง 7 ชั้น ที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2557 ที่ผ่านมา นอกจากนี้แล้ว การร่วมทุนในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้บริษัทสามารถขยายการลงทุนทั้งไทยและต่างชาติได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการขยายธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มแบรนด์ดีน แอนด์ เดลูก้า ในไทย ญี่ปุ่น อังกฤษและสหรัฐอเมริกา

นายสรพจน์กล่าวว่า ในปี 2560 มีโครงการที่พักอาศัยที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 4 โครงการ ได้แก่ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ในโครงการมหานคร โครงการมหาสมุทรวิลล่า โครงการนิมิต หลังสวน และโครงการคอนโดมิเนียมไฮเอนด์บนถนนนราธิวาส มูลค่าโครงการรวม 3 หมื่นล้านบาท มียอดรอรับรู้รายได้ 1.75 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้สำหรับส่วนที่อยู่อาศัยของโครงการมหานคร ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 80% และคาดว่าจะเปิดให้ย้ายเข้าพักอาศัยได้ภายในเดือนมีนาคม 2560

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image