นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวงเปิดเผยว่า จากกรณีน้ำท่วมบนทางหลวงหมายเลข 4 ห้วยยาง – บางสะพาน พื้นที่ อ.ทับสะแก กม.365+600 และ กม.386+500 คอสะพานขาด ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปสู่ภาคใต้รวมถึงจากภาคใต้สู่กรุงเทพฯ ได้ และกรมทางหลวง โดยศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่3 (ปทุมธานี) และ ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่4 (นครศรีธรรมราช) ได้ดำเนินการทอดสะพานเบลีย์ เพื่อให้การจราจรสามารถผ่านได้นั้น
เมื่อเวลาประมาณ 03.10 น. ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่3 (ปทุมธานี)และเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์(หัวหิน) ได้ดำเนินการวางสะพานเบลีย์แล้วเสร็จ บริเวณสะพานหนองหญ้าปล้อง ในทางหลวงหมายเลข 4 ตอน ห้วยยาง-บางสะพาน ที่กม.365+628 ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สามารถเปิดการจราจรได้ทั้งขาเข้ากทม.และขาล่องใต้ โดยสามารถวิ่งได้ฝั่งละ 1 ช่องจราจร และขณะเดียวกันเมื่อเวลาประมาณ 03.30 น. ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่4 (นครศรีธรรมราช)และเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์(หัวหิน) ได้ดำเนินการวางสะพานเบลีย์แล้วเสร็จ บริเวณสะพานวังยาว(คลองบางสะพาน) ในทางหลวงหมายเลข 4 ตอน บางสะพาน-น้ำรอด ที่กม.386+542ต.ทองมงคลอ.บางสะพานจ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงทำให้ สามารถเปิดการจราจรในบริเวณดังกล่าว ทั้งขาเข้ากทม.และขาล่องใต้ โดยสามารถวิ่งได้ฝั่งละ 1 ช่องจราจรแต่อย่างไรก็ตามกรมทางหลวงได้จัดเจ้าหน้าที่คอยำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ทางในบริเวณดังกล่าวเนื่องจากมีปริมาณจราจรมาก
อธิบดีกรมทางหลวงยังกล่าวต่อไปอีกว่า พื้นที่ของภาคใต้ สถานการณ์ยังคงต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่มจึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานของกรมทางหลวงประกอบด้วยสำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง และหมวดทางหลวงในพื้นที่ เตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นตลอด 24 ชม. โดยภารกิจหลักตอนนี้คือช่วยให้การจราจรผ่านได้ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่สะพานขาดหน่วยงานดำเนินการเองของกรมทางหลวงได้แก่ศูนย์สร้างทางและศูนย์สร้างและบูรณะสะพานในพื้นที่ เข้าพื้นที่แก้ไขโดยใช้เวลาอย่างรวดเร็วที่สุด หลังจากเมื่อน้ำลดจะทำการสำรวจความเสียหายเพื่อซ่อมแซมสู่ความยั่งยืนต่อไป พร้อมทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการใช้เส้นทางเพิ่มขึ้น เพื่อความสะดวกและปลอดภัย ของผู้ใช้ทาง หากต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)
