ที่มา | มติชนรายวัน หน้า 18 |
---|---|
เผยแพร่ |
กำลังเป็นที่กล่าวขวัญเป็นอย่างมาก สำหรับชุดประจำชาติมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ “จีเวล ออฟ ไทยแลนด์” ที่ น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 จะสวมใส่ขึ้นประกวดอวดโฉมความงามต่อสายตาชาวโลกบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2016 ที่ประเทศฟิลิปปินส์
เรียกได้ว่า ปีนี้ ชุดประจำชาติมีความแตกต่างไปจากหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกับ “ชุดรถตุ๊กตุ๊ก” ที่แม้ “จีเวล ออฟ ไทยแลนด์” จะไม่ฉีกแนวให้ล้ำเท่า แต่ก็ได้รับเสียงชื่นชมถึงความสวยและสะท้อนความเป็นไทย
แต่กว่าจะมาเป็นชุดสวยเลอค่าขนาดนี้ได้ ไม่ง่ายนัก เพราะต้องผ่านด่านการประกวดชุดประจำชาติในหัวข้อ “ครีเอทีฟไทย” ที่มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจำนวน 291 ผลงาน แต่ด้วยแรงบันดาลใจ “ชุดไทยศิวาลัย” ซึ่งเป็นหนึ่งในชุดไทยพระราชนิยม ในพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ “ส้มโอ-หิรัญกฤษฏิ์ ภัทรบริบูรณ์กุล” นักออกแบบ หยิบเอาความประทับใจในฉลองพระองค์มาสร้างสรรค์เป็นชุด “จีเวล ออฟ ไทยแลนด์” ก็ทำให้เขาคว้ารางวัลที่ 1 มาได้
และนับตั้งแต่ 17 พฤศจิกายน 2559 เป็นต้นมา จึงถือเป็นช่วงเวลาที่นักออกแบบและทีมงานได้เร่งรังสรรค์ผลงานในเวลาเกือบ 2 เดือน
โดยลายปักของชุด ออกแบบโดยนำเอาแผนผังวัดพระศรีรัตนศาสดารามมาเป็นต้นแบบเป็นลายปักอาร์ตเดคโค่ ประยุกต์กับลายปักเลอซาจ ทั้งมีลายกรวยเชิงจากวัดใหญ่ชัยมงคล เมื่อได้ลายแล้วจึงนำไปปักด้วยคอมพิวเตอร์ขึ้นลายให้เท่ากัน ก่อนจะนำไปรีดร้อนเพชรเข้ากับตัวผ้า
จากนั้นจึงเป็นขั้นตอนของการเย็บมือด้วยดิ้นทอง ร่วมปักเพชรกว่า 3 แสนเม็ด ด้วยเพชรคิวบิคเซอร์โคเนีย จากสวารอฟสกี้ ที่ได้รับการรับรองจากสถาบันจีไอเอว่ามีความแวววาวเทียบเท่าเพชรจริง ทำให้เกิดความระยิบระยับเมื่อต้องไฟบนเวที
ขั้นตอนการเย็บนี้เอง เรียกว่า “ละเอียดอ่อนมาก” ต้องใช้ทีมเย็บกว่า 30 คนกระจายไปตามที่ต่างๆ ทั้งบุรีรัมย์ สุรินทร์ ช่วยกันปักเย็บ ก่อนจะนำชิ้นส่วนต่างๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน และต้องไม่ทับซ้อนหรือบดบังความสวยงามกันเอง
ความพิเศษของชุดนี้ ยังรวมถึงเครื่องประดับชิ้นต่างๆ 6 ชิ้น ประกอบด้วย รัดเกล้ายอด (เครื่องประดับศีรษะ) ที่จัดทำขึ้นใหม่ใช้เทคนิคแบบโบราณดั้งเดิมออกแบบลายร่วมสมัย, ต่างหู, สร้อยคอ, ปั้นเหน่ง (หัวเข็มขัด), สายเข็มขัด และพาหุรัด (เครื่องประดับต้นแขน) ที่ได้แรงบันดาลใจจากสุพรรณหงส์
ทุกชิ้นต้องออกแบบ ทำโมเดลสามมิติ ก่อนจะหล่อแวกซ์ และจัดทำขึ้นจริงด้วยเงินแท้ชุดทอง ให้เกิดความวาว ทั้งยังต้องเก็บน้ำหนักให้เบาที่สุด ประดับด้วยเพชรคิวบิคเซอร์โคเนีย จากสวารอฟสกี้ทุกชนิด
มิเพียงเท่านี้ แต่รองเท้าก็ยังต้องจัดทำขึ้นใหม่ ปักลายให้เข้ากับชุดด้วย
ก่อนจะสำเร็จออกมาเป็นชุด “จีเวล ออฟ ไทยแลนด์” อันเป็นงานศิลปะที่รวมศาสตร์และศิลป์ในการผลิตและตัดเย็บชุดไทย ที่มีน้ำหนักกว่า 14 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 7 หลัก จากแรงใจของคนช่างไทยนับร้อยคน ไม่ว่าจะเป็น ดร.สุรัตน์ จงดา รองอธิการบดีวิทยาลัยนาฏศิลป์ ที่ปรึกษาด้านเครื่องแต่งกายไทย, พีระมล ชมธวัช ที่ปรึกษาด้านเครื่องประดับไทย และโจ้-โอฬาร กกโอ ที่ปรึกษา ด้านงานปักไทย ไปจนถึงคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทยทั้งสิ้น
ทั้งหมดก็เพื่อให้ “จีเวล ออฟ ไทยแลนด์” เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่จะแสดงออกให้ชาวโลกได้รู้จักกับ “ชุดไทยศิวาลัย” และมรดกงานหัตถกรรมของไทยนั่นเอง