‘หมอธี’โละระบบประเมินทำผลงานวิชาการ ดู’ชั่วโมงสอน-พัฒนาตัวเอง-ผลสัมฤทธิ์น.ร.’ แทน

เมื่อวันที่ 12 มกราคม นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ตนได้หารือร่วมกับผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การเข้าสู่ตำแหน่งบริหารทางการศึกษต่าง ๆ และการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยตนได้ย้ำให้ที่ประชุมน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาใช้เป็นแนวทาง โดยในการทำงานจะต้องดูการทำงานทั้งในเชิงปริมาณ และคุณภาพ สำหรับการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะของครูและบุคลากรทางการศึกษา จะให้ครูเลิกทำผลงานทางวิชาการ แต่จะพิจารณาจากชั่วโมงการสอน ส่วนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็ก ก็จะใช้เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาในเรื่องของคุณภาพ เพราะครูบางคนสอนเด็กพิเศษ ซึ่งอาจจะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่ดี แต่ครูมีความตั้งใจและถือเป็นการสอนเด็กกลุ่มที่สอนยากก็ควรต้องได้รับการพิจารณาด้วยเพื่อความยุติธรรม ขณะที่ในเชิงคุณภาพ นอกจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กแล้ว จะพิจารณาจากการพัฒนาตนเองของครู เน้นที่การพัฒนาองค์ความรู้ที่ใช้ในการเรียนการสอนมากขึ้น ไม่ใช่จะไปอบรมอะไรก็ได้เหมือนที่ผ่านมา โดยตนจะให้ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูว่า การอบรมใดบ้างที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาครู ซึ่งครูสามารถไปได้ แต่จะไม่สามารถนำมาใช้ในการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะได้ ส่วนการเข้าสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาและการเข้าสู่ตำแหน่งทางการบริหารอื่น ๆ จะลดการสอบให้น้อยลง แต่จะใช้ระบบที่ทันสมัย ที่จะเน้นพิจารณาหลัก 3 ประการ คือ ทักษะ ผลงาน และศักยภาพ

“ที่ประชุมเห็นด้วยในหลักการ ซึ่งผมได้ให้ก.ค.ศ. ไปปรับในรายละเอียด เพื่อทดลองใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งจะต้องเป็นหลักเกณฑ์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ รวมถึงจะยกเลิกวิธีประเมินทั้งหมด ให้เป็นระบบการประเมินที่ง่ายและตรงกับความเป็นจริงมากขึ้น และจะต้องไม่ใช้ผู้ประเมินที่มาก โดยให้สพฐ.และก.ค.ศ. เสนอรายละเอียดให้ที่ประชุมคณะกรรมการก.ค.ศ. พิจารณาวันที่ 13 มกราคม “นพ.ธีระเกียรติกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image