สมคิดเผยรัฐต้องลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ เคาะงบปี 2561 ขาดดุล 4.5 แสนล. วงเงินรายจ่ายพุ่ง 2.9 ล้านล.

ที่สำนักงบประมาณ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุม 4 หน่วยงานเพื่อพิจารณาวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ว่า ที่ประชุมกำหนดงบประมาณรายจ่ายไว้ที่ 2.9 ล้านล้านบาท รายได้ 2.45 ล้านล้านบาท ส่งผลให้ขาดดุล 4.5 แสนล้านบาทคิดเป็น 2.9 % ของจีดีพี เพิ่มขึ้นจากปีงบ 2560(ไม่รวมงบกลางปี) ขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท คิดเป็น 2.6% ของจีดีพี โดยการจัดทำงบประมาณของไทยยังจำเป็นต้องขาดดุลเนื่องจากต้องการให้งบประมาณรัฐไปสนับสนุนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในปี 2561 จีดีพีอยู่ในระดับ 3.8% เงินเฟ้อ 2%

นายสมคิด กล่าวว่า ในปี 2560-2561 รัฐบาลต้องการให้เป็นปีพิเศษในการลงทุนเพื่อวางรากฐานอนาคตของประเทศ แม้แนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังเสี่ยง ถ้านำงบกลางปี 2560 วงเงิน 1.9 แสนล้านบาทมารวมงบประจำ 2560 ในปีงบ 2561 ขาดดุลยังต่ำกว่าปีงบ 2560 โดยยังไม่มีแนวคิดจัดทำงบกลางปี 2561 เพิ่มเติม

นายสมคิด กล่าวว่า งบขาดดุลเพิ่มขึ้นในปีงบ 2561 จะนำไปเพิ่มในงบลงทุน ให้มีสัดส่วน 23% ของงบประมาณรายจ่าย( 6.67 แสนล้านบาท) จากปีงบ 2560 มีสัดส่วน 21-22% ของงบประมาณรายจ่าย โดยงบประมาณที่ขาดดุลเพิ่มนั้นส่งผลให้สัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีอยู่ที่ 45% ยังเป็นต่ำ และอยู่ในระดับมาตรการฐาน ไม่ทำให้ประเทศอยู่ในฐานที่เสี่ยง

นายสมคิด กล่าวว่า นอกจากนี้มอบหมายให้สำนักงบประมาณไปหารือกับกระทรวงหมาดไทย ถึงการใช้งบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้รับงบไปถึง 6 แสนล้านบาท ให้การใช้งบประมาณของท้องถิ่นสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล

Advertisement

นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ในปีงบ 2560 ตั้งเป้างบรายจ่ายไว้ที่ 2.733 ล้านล้านบาท ขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท มีการจัดทำงบประมาณกลางปี 1.9 แสนล้านบาท กู้เพียง 1.62 แสนล้านบาท ส่งผลให้ขาดดุลทั้งปีอยู่ที่ 5.52 แสนล้านบาท

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนงบกลางปี 2560 นั้น 1.9 แสนล้านบาทจะเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 17 มกราคมนี้ ส่วนงบประมาณประจำปี 2561 จะเสนอเข้าครม.ต้นเดือนเมษายน และเสนอเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ปลายเดือนเมษายน ซึ่งในเบื้องต้นหน่วยงานส่งคำขอให้งบปี 2561 มาถึง 4.521 ล้านล้านบาท สำนักงบฯ กำหนดให้หน่วยงานส่งคำขออย่างเป็นทางการเข้ามาวันที่ 1 กุมภาพันธ์ จากการวิเคราะห์น่าจะมีคำขอถึง 3.411 ล้านล้านบาท สำนักงบฯต้องตัดให้เหลือ 2.9 ล้านล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายการเบิกจ่ายงบลงทุนในปี 2561 ไว้ที่ 88% จากปีงบ 2560 ตั้งเป้าหมายไว้ 87%

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้เศรษฐกิจมีเครื่องยนต์หลายตัวที่กำลังจะติด ถ้าเกิดรัฐบาลชะลอการลงทุน อาจส่งผลให้เครื่องยนต์สะดุดลง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำงบประมาณขาดดุลให้มากกว่าปีก่อน เพื่อให้เงินลงทุนภาครัฐเข้าไปสู่ระบบ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของประเทศในระยะยาว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image