9 เดือนผ่านไป จากเคยร้องไห้ ‘ชินวุฒ’ เปิดใจ “ทหารเป็นหน้าที่ในชีวิตที่ทำให้เป็นคนดีขึ้น”

ตบเท้ามาพร้อม เต้ – ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์ และ อกนิษฐ์ มาโนษยวงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท สาระดี จำกัด เพื่อประชาสัมพันธ์รายการ ‘เรื่องจริงผ่านจอ’ ตอนพิเศษ ‘ทหารของพระราชา’ ในโครงการเชิดชูเกียรติ ‘ทหารผ่านศึก’

ชิน – ชินวุฒ อินทรคูสิน ที่มาในฐานะพลทหารก็ได้เปิดใจหลังจากเข้าไปทำหน้าที่รับใช้ชาติได้เกือบ 9 เดือน โดยเขาได้พูดถึงตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าจะได้เป็นทหาร และร้องไห้ต่อหน้าสื่อจนกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์

“หลายคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม คนเราจะตัดสินจากภาพที่เห็นก่อน ก่อนจะเข้าใจมันจริงๆ หรือภาพที่ออกมาเป็นแบบนั้น ความหมายของมันคืออะไร  แต่ผมไม่ได้ซีเรียส เพราะเข้าใจว่าสื่อคือสื่อ คนตีความคือคนตีความ ชินอยู่วงการนี้มานาน เพราะฉะนั้นไม่ได้รู้สึกอะไรกับตอนนั้น แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น คือกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ของทุกคน คือ ชินมันกลัวการเป็นทหาร ซึ่งอันนี้ผมไม่ได้กลัวอยู่แล้ว เพราะว่าครอบครัวผมก็เป็นทหารทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งพ่อและแม่เลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือผมก็เป็นห่วงที่บ้าน เพราะว่าเราเองก็เป็นเสาหลักของบ้าน” เขาขอชี้แจงอีกครั้งถึงดราม่าเมื่อปีที่แล้ว

ก่อนจะว่า “แต่พอเราได้ผ่านมาตอนนี้จะครบ 9 เดือนแล้ว ก็ได้เรียนรู้อะไรเยอะ แล้วก็ได้สัมผัสอะไรหลายอย่างที่เราคงไม่ได้มีโอกาสได้สัมผัส  และไม่ได้มีโอกาสได้เรียนรู้ และเข้าถึงมันถ้าไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ เป็นอีกหนึ่งหน้าที่ในชีวิตที่ทำให้ผมเป็นคนดีขึ้น”

Advertisement

“จากตื่นสายก็ตื่นเช้า จากขี้เกียจก็ไม่ขี้เกียจ มีกาลเทศะมากขึ้น ผมว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทหารปลูกฝังไปในตัวเลย คือการมีกาลเทศะกับผู้ใหญ่ และการที่เราเคารพผู้ใหญ่มากขึ้น เพราะผมเป็นกึ่งๆ ฝรั่ง ถูกเลี้ยงมาทั้ง 2 แบบทั้งไทยและฝรั่ง ฉะนั้นบางทีกาลเทศะของต่างชาติกับของเรา จะแตกต่างกัน แต่การที่มาอยู่ตรงนี้สิ่งที่สอนเลยคือการเคารพผู้ใหญ่ หรือแม้บางทีรุ่นพี่ที่อายุน้อยกว่าเรา แต่ทหารไม่ได้นับตรงนั้น นับเป็นรุ่น”

“ความอดทน มีความเสียสละให้คนอื่นมากขึ้น เห็นคุณค่าในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น อาหาร เราจะมีคำปฏิญาณที่เราต้องกินให้หมดทุกเม็ด เพราะว่ากว่าจะได้มาแต่ละเม็ดมันลำบาก เราจะได้เห็นคุณค่าแบบนี้”

“แล้วตอนฝึกไม่ได้เจอครอบครัว ไม่ได้เจอคนที่เรารัก พอได้เจอก็เห็นคุณค่าของเวลา เหมือนเราอยู่อย่างนี้ ได้เจอทุกวัน บางทีทะเลาะกัน ไม่ถูกใจกัน เราก็อารมณ์ขึ้นแล้ว เพราะเราไม่เห็นคุณค่าของเวลาว่าเรากำลังเสียเวลากับเรื่องอะไรแบบนี้อยู่ แต่พอมีโอกาสไม่ได้เจอเขานานๆ มันทำให้เราคิดถึง พอได้เจอทุกวินาทีมีค่ามาก กว่าจะได้เจอกันที พอได้เจอมันเต็มที่มากเลย”

“เพราะฉะนั้นเราจะได้เรียนรู้ เหมือนคำพูดที่คนชอบพูดกันว่าเป็นทหารได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด ผมเต็มๆ ครับ เหลือเวลาอีกปีกว่าในการเป็นพลทหารอีกปีกว่าก็จะทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ”

“ต้องขอบคุณทางกองพัน ทางกอง มทบ.11 ทางกองทัพบกที่ช่วยฝึกและหล่อผมให้เป็นคนที่ดีขึ้น เพราะการฝึกด้วยวินัย ด้วยทุกอย่างทำให้เป็นคนที่ดีขึ้น” เขาย้ำ

พร้อมกับทิ้งท้าย “ทุกวันนี้ผมแฮปปี้ ผมแฮปปี้ที่ได้มีโอกาสรับใช้ชาติไม่ว่าจะเป็นทางใดก็ตาม แฮปปี้มากที่ได้มีโอกาสทำงานดีๆ เหลืออีกปีกว่าที่เราต้องทำภารกิจแบบนี้ ก็สัญญาว่าจะปฏิบัติมันอย่างเต็มที่ เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา”

ชินวุฒิ1

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image