เมื่อวันที่ 1 มกราคม ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา พร้อมนางพริ้ม บุญภัทรรักษา พ่อและแม่ของนายจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ดาวดิน ผู้ต้องหาตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เดินทางเข้ายื่นเรื่องประกันตัวคัดค้านการฝากขังผัดที่ 6 โดยใช้เหตุผลว่า อำนาจรัฐจำกัดสิทธิทางการศึกษา เพราะครอบครัวต้องการให้นายจตุภัทรเข้าสอบรายวิชาทักษะคอมพิวเตอร์ โดยมีนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” สมาชิกกลุ่มพลเมืองโต้กลับ นายรังสิมันต์ โรม นางสาวชนกนันท์ รวมทรัพย์ นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว สมาชิกขบวนประชาธิปไตยใหม่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน อดีตเลขาธิการกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท นายพายุ บุญโสภณ หรือไนท์ ดาวดิน และนายปิยรัฐ จงเทพ นายกสมาคมเพื่อเพื่อน (FFA) พร้อมเพื่อนๆ กว่า 40 คน มาให้กำลังใจ พร้อมถือภาพหน้านายจตุภัทร และกระบอกข้าวหลามที่ทำจากกระบอกไม้ไผ่เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับไผ่
ต่อมา รถจากทัณฑสถานบำบัดพิเศษจังหวัดขอนแก่น นำตัวนายจตุภัทรเข้ามายังบริเวณศาลจังหวัดขอนแก่น เมื่อกลุ่มเพื่อนเห็นรถ ต่างร้องทักทายส่งเสียงให้กำลังใจ ก่อนเดินเข้าไปบริเวณห้องควบคุมตัวไผ่ เพื่อรอขึ้นห้องพิจารณาเพื่อพบปะพูดคุยกับนายจตุภัทร ผ่านทางโทรศัพท์
นายกฤษฎางค์กล่าวว่า วันนี้ศาลจังหวัดขอนแก่นนัดพิจารณาไต่สวนคำร้องของตำรวจ สภ.ขอนแก่นที่จะขังไผ่ต่อไปอีก 12 วัน ในคดีที่ถูกกล่าวหาตาม ม.112 กรณีมีการแชร์ภาพ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังจากขังมาแล้ว 5 ผัด ในคำร้องของพนักงานสอบสวนมีการสอบสวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงเสนอคณะกรรมการของฝ่ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาสั่งคำฟ้อง โดยไม่มีพยานหลักฐานใดที่ต้องสอบเพิ่ม ส่วนนายจตุภัทรขอคัดค้านว่า เมื่อพนักงานสอบสวนได้สอบเสร็จแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะฝากขังต่อ แต่เจ้าพนักงานสอบสวนได้คัดค้านโดยอ้างว่าคดีนี้เป็นคดีเพื่อความมั่นคง หากตัวนายจตุภัทรออกไป จะยุ่งยากในพยานหลักฐาน และก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ซึ่งนายจตุภัทรได้ยื่นคำร้องคัดค้านว่า คดีนี้ไม่ปรากฏว่ามีการยุ่งเหยิงในพยานหลักฐาน และยังมีคดีอื่นที่ศาลทหารขอนแก่นให้ประกันมา ทุกอย่างยังเป็นปกติดี ฉะนั้น จึงไม่มีเหตุผลให้ขังต่อพร้อมขอให้พิจารณาคดีโดยเปิดเผย ขณะที่ศาลยังมีคำสั่งยืนยันให้พิจารณาโดยลับ ทั้งพ่อแม่และทีมทนายความได้คัดค้านขอให้มีการพิจารณาคดีโดยเปิดเผย เพราะวันนี้มีผู้มาฟังคำพิจารณาจำนวนมาก แต่ศาลยังยืนยันให้พิจารณาคดีโดยลับ นายจตุภัทรจึงแถลงต่อศาลว่าขอให้ทนายออกจากห้องพิจารณาพร้อมทั้งพ่อและแม่ ขอต่อสู้โดยลำพัง ซึ่งต้องรอฟังผลการพิจารณา
ต่อมาเวลา 11.00 น. นายวิบูลย์เปิดเผยว่า ศาลมีคำสั่งให้ฝากขังต่ออีก 10 วัน ตามคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวน
