7 ปี…ที่มหาวิทยาลัยพะเยา :โดย ดร.นพ.วิชัย เทียนถาวร

มหาวิทยาลัยพะเยา กำลังก้าวเข้าสู่วาระครบรอบ 7 ปี ภายหลังที่มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยพะเยา พ.ศ.2553 เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 17 กรกฎาคม 2553 โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ เป็นนายกสภามหาวิทยาลัย และมี ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยจนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้วางนโยบายและเป้าหมายที่จะพัฒนามหาวิทยาลัยให้เป็นมหาวิทยาลัยสมบูรณ์แบบ (Comprehensive University) เพื่อยกระดับภูมิปัญญา สู่มาตรฐานสากล และรับใช้สังคมที่มีคุณภาพ โดยได้รับการยอมรับในระดับชาติ ระดับอาเซียน และระดับนานาชาติ ในด้านผลิตบัณฑิต การวิจัย การบริการวิชาการ การทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมและการบริหาร โดยใช้หลักคุณธรรม พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายนำไปสู่ความมั่นคง และความยั่งยืนของเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ

ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี ยังเน้นว่าหัวใจสำคัญของการพัฒนามหาวิทยาลัย คือ การพัฒนาทรัพยากร “มนุษย์” ให้ความสำคัญกับอาจารย์ บุคลากรผู้สนับสนุน คนงาน คนขับรถ และเจ้าหน้าที่ รปภ.ทุกระดับ ให้มีคุณภาพและมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพของตนเองให้ก้าวหน้าทางด้านการเรียนการสอน และการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ มหาวิทยาลัยจึงมี
นโยบายในการพัฒนาบุคลากรที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัย ตั้งแต่เริ่มเข้าปฏิบัติงาน จนถึงเกษียณอายุราชการ เมื่อบุคลากรเริ่มต้นเข้ามาในมหาวิทยาลัย จำเป็นต้องดูแล เอาใจใส่ และอำนวยความสะดวก ในด้านต่างๆ ให้ครอบคลุม ตั้งแต่ตนเอง ครอบครัว หลักการใช้จ่ายเงินทอง สร้างแรงจูงใจ ให้ได้รับสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ตั้งแต่ส่วนตัว การมีคู่ ลูก พ่อแม่ ยามเจ็บป่วย เสียชีวิต ให้พึงได้รับอย่างพอเหมาะพอดี โดยไม่น้อยกว่าระบบราชการ ตลอดจนกระตุ้นในการเรียนรู้ตลอดชีวิต สร้างให้สังคมใฝ่รู้ รู้งาน อดทน มีวินัย เสียสละ สามัคคี มีสัจจะ และกตเวที เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการอยู่ร่วมกันนั้น โดยใช้ระบบธรรมาภิบาล ในการบริหารจัดการ เพื่อให้ทุกคนได้ปฏิบัติตามนโยบาย กฎ ข้อบังคับต่างๆ ของมหาวิทยาลัยโดยสมัครใจ และเต็มใจ

ส่วนนิสิต นักศึกษาตั้งแต่ปี 1 ทุกคน จนถึงปีสุดท้ายตั้งเป้าหมายเข้ามาร้อยออกไปร้อย และทุกคนได้รับการตรวจสุขภาพ 100% ตั้งแต่ปี 1 และมีการติดตามดูแลสุขภาพและควบคุม เฝ้าระวังการเจ็บป่วยอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนจัดสถานที่ ที่เรียน โรงอาหาร ที่นั่งเล่น สนามกีฬา การบันเทิงอย่างมีคุณภาพ นอกเหนือจากการเล่าเรียน ซึ่งเมื่อจบเป็นบัณฑิตจาก ม.พะเยาแล้ว เป็นคนดี มีความรู้ สู้งาน อดทน นอบน้อม ถ่อมตน หนักเอาเบาสู้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของตนเองและครอบครัว โดยเฉพาะเมื่อกลับสู่ภูมิลำเนา เมื่อเรียนจบแล้ว

สิ่งสำคัญที่สุดคือ พ่อแม่ปลื้มใจ กตเวทีต่อพ่อแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ผิดหวังที่ให้ความไว้วางใจ ม.พะเยา

Advertisement

นับแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยพะเยา มี
นโยบายในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการและให้บริการด้านสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพ สนับสนุนระบบการให้บริการด้านสุขภาพ รวมทั้งจัดระบบให้บริการด้านสุขภาพแบบบูรณาการโดยมีศูนย์บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข คณะแพทยศาสตร์ ม.พะเยา โดยมีแพทย์ตะวันตก แพทย์แผนไทยประยุกต์ แพทย์แผนจีน นักวิชาการสาธารณสุข พยาบาล เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด รวมทั้งเภสัชกรและทันตแพทย์ที่มีคุณภาพให้บริการ รวมถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) มีรถพยาบาลบริการภายในมหาวิทยาลัย 1 คัน และนอกมหาวิทยาลัย 1 คัน นอกจากบริการนิสิตและยังบริการประชาชนอีกด้วย และเป็นระบบการดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้น และในงานสาธารณสุขมูลฐานอย่างเป็นระบบ

มหาวิทยาลัยเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง ที่จะให้การดูแล ให้อาชีพ การงาน สวัสดิการที่มั่นคง เพื่อคนที่มาอยู่มหาวิทยาลัยที่ดำรงชีพ เลี้ยงดูแลเสมือนหนึ่งด้วยการให้บ้านหลังที่สองแห่งนี้มีความน่าอยู่ และการมี “สุขภาพดี” คือ “หัวใจสำคัญ” ที่มหาวิทยาลัยเอาใจใส่อาจารย์บุคลากรเป็นสำคัญ ต้องมีสุขภาพดี แข็งแรงทั้งกายและใจ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ จึงได้จัดให้มีการบริการตรวจสุขภาพบุคลากรทุกคนในมหาวิทยาลัยปีละ 1 ครั้ง อย่างต่อเนื่อง

อนึ่ง จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในปี 2558 มีบุคลากรที่เข้ารับการตรวจสุขภาพ 1,091 คน คิดเป็นร้อยละ 83.92 โดยแยกเป็น 2 กลุ่ม คือ

Advertisement

กลุ่มความดันโลหิตสูง : กลุ่มปกติ (สีขาว) 794 คน (72.8%) กลุ่มเสี่ยง (สีเขียวอ่อน) 231 คน (21.17%) กลุ่มเป็นโรคควบคุมได้แต่ต้องกินยา (สีเขียวเข้ม) 6 คน (0.55%) กลุ่มผู้ป่วยอ่อน 45 คน (4.12%) กลุ่มป่วยปานกลาง (สีส้ม) 11 คน (1.01%) กลุ่มป่วยรุนแรง (สีแดง) 3 คน (0.27%) กลุ่มป่วยมีโรคแทรกซ้อน (สีดำ) 2 คน (0.2%) (เป็นโรคหัวใจขาดเลือด) อยู่ในเกณฑ์ต้องดูแลและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

กลุ่มเบาหวาน : กลุ่มปกติ (สีขาว) 1,066 คน (97.70%) กลุ่มเสี่ยง (สีเขียวอ่อน) 15 คน (1.37%) (สีเขียวเข้ม) 1 คน (0.09%) (สีเหลือง) 4 คน (0.36%) (สีส้ม) 1 คน (1.09%) (สีแดง) 4 คน (0.36%) (สีดำ) 0 คน (0%) ในเกณฑ์ต้องดูแลต่อไป

จากผลงานปีที่ผ่านมา สีดำ ยังคงมีอยู่ครบทั้ง 2 คน และโรคแทรกซ้อนแต่ไม่มีอาการกำเริบต้องเข้าโรงพยาบาล มีคุณภาพชีวิตที่ดี ผู้ป่วยรุนแรงสีแดงของความดันโลหิตสูง และเบาหวานลดได้อย่างละ 1 คน รวมเป็น 2 คน ในปีที่ผ่านมา คิดผลกระทบพบว่าการประหยัดงบประมาณ หากกลายเป็นสีดำ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจขาดเลือดหรืออัมพาต จะต้องเสียค่าใช้จ่ายรายละ 5 แสนบาท ฉะนั้น 2 รายที่ลดเป็น สีส้ม สีเหลืองได้ ประหยัดเงินได้ 1 ล้านบาท

สำหรับในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา มีบุคลากรจำนวน 1,772 คน เป็นอาจารย์ 970 คน บุคลากร 802 คน ตั้งเป้าหมายให้ได้รับการตรวจ 100% และคาดว่ากลุ่มสีแดงจะลดลง 50% และกลุ่มสีเขียวอ่อน จะดีขึ้นเป็นกลุ่มสีขาว 50% เช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีการตรวจคลื่นหัวใจ เอกซเรย์ปอด ตรวจมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านมอีกด้วย

เนื่องในโอกาสอันมหามงคลของชาวจังหวัดพะเยา ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2560 ที่จะถึงนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยพะเยา ประจำปีการศึกษา 2558 จำนวนทั้งสิ้น 4,236 คน โดยเสด็จถึงมหาวิทยาลัยพะเยา เวลา 09.30 น. โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้พิพากษา ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 34 เฝ้าฯรับเสด็จ ที่สนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราวมหาวิทยาลัยพะเยา

ต่อมาเสด็จฯถึงอาคารหอประชุมพญางำเมืองมหาวิทยาลัยพะเยา ในเวลา 09.40 น. โดยมีนายกสภามหาวิทยาลัยพะเยา อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา กรรมการสภามหาวิทยาลัยพะเยา ผู้บริหาร ให้การเข้าเฝ้าฯรับเสด็จ ในการนี้มีผู้ที่ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิต เข้ารับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จำนวน 3 คน คือ 1.ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ เข้ารับพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพัฒนาสังคม 2.นายสุกรี เจริญสุข เข้ารับพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาดุริยางคศาสตร์สากล 3.นายสุเมธ ตันติเวชกุล เข้ารับพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การเกษตร

ในช่วงบ่าย 13.00 น. จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเททองหล่อพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่พลับพลาพิธี บริเวณด้านข้างอาคารหอประชุมพญางำเมือง มหาวิทยาลัยพะเยา

นอกจากนี้ ท่านนายกสภามหาวิทยาลัยพะเยา ศาสตราจารย์เกียรติคุณ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ กราบบังคมทูลเบิกตัว นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นายพศิน โกมลวิชญ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี, นายแพทย์มณเทียร คณาสวัสดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี, แพทย์หญิงวนิดา สาดตระกูลวัฒนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิงห์บุรี, นายณรงค์ศักดิ์ เฉลิมเกียรติ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา, นายแพทย์ขจร วินัยพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา และแพทย์หญิงจิรพร ภัทรนุธาพร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพะเยา ที่ได้ดำเนินการโครงการ “หมู่บ้านสุขภาพดี เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” เข้ารับพระราชทานโล่ประกาศเกียรติคุณ (จำนวน 7 ราย)

ในการนี้จังหวัดพะเยาและมหาวิทยาลัยพะเยา ขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดพะเยา จังหวัดลำปาง จังหวัดเชียงราย และจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเข้าเฝ้าฯรับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยทั่วกันนะครับ

 

ดร.นพ.วิชัย เทียนถาวร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image