วันที่ 14 กุมภาพันธ์ นายมานพ หนูสอน รักษาราชการแทนประมง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กรมประมงประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในช่วงฤดูปลาที่มีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน ฝั่งทะเลอ่าวไทย หรือประกาศปิดอ่าวประจำปี 2560 ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์-15 พฤษภาคม 2560 รวม 3 เดือน พื้นที่ประมาณ 26,400 ตารางกิโลเมตร หรือ 16.5 ล้านไร่ ตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี โดยกำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิด ที่อาจส่งผลต่อการแพร่ขยายพันธุ์ของพ่อแม่พันธุ์และสัตว์น้ำวัยอ่อนในทะเลอ่าวไทย โดยเฉพาะปลาทู ซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่มีคุณค่าและมีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งหากพบการกระทำผิดจะดำเนินการจับกุมดำเนินคดีอย่างเข้มงวด
นายมานพกล่าวว่า ล่าสุดกรมประมงได้ปรับปรุงมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา กำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิดในพื้นที่ 3 จังหวัดภายในระยะเวลาที่กำหนด ประกอบด้วยเครื่องมืออวนติดตาจับปลาทุกชนิดที่ใช้ประกอบเรือกลทำการประมง ยกเว้นการใช้เครื่องมืออวนติดตาจับปลาที่มีช่องตาอวนตั้งแต่ 2 นิ้วขึ้นไป ที่ใช้ประกอบกับเรือกลที่มีขนาดต่ำกว่า 10 ตันกรอส ทำการประมง ซึ่งหมายถึงเรือประมงพื้นบ้าน โดยให้ประกาศสิ้นสุดผลการบังคับใช้เมื่อพ้นวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 นอกจากนั้น ยังมีประกาศกำหนดเครื่องมือทำการประมง วิธีการทำประมง และพื้นที่การทำประมง ที่ห้ามใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2560-30 มิถุนายน 2560 ห้ามใช้เครื่องมืออวนลากทุกชนิดใช้ประกอบเครื่องปั่นไฟทำการประมงในเขต 7 ไมล์ทะเล นับจากแนวชายฝั่งในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี ยกเว้นการใช้เรืออวนครอบ อวนช้อน และอวนหมึกประกอบเครื่องปั่นไฟทำการประมงนอกเขตชายฝั่ง
“ประกาศกระทรวงเกษตรฯในปี 2560 จะมีผลบังคับใช้เฉพาะปีนี้ เพื่อทดลองศึกษาหาแนวทางที่เหมาะสม ระหว่างนี้กรมประมงจะศึกษาข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับปลาทูให้เสร็จภายใน 1 ปี สำหรับชาวประมงที่ได้รับความเดือดร้อนและต้องการปรับเปลี่ยนเครื่องมือจะมีการพิจารณาปล่อยเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยให้กู้รายละไม่เกิน 100,000 บาท และให้ชาวประมงผ่อนชำระไม่เกิน 3 งวดภายใน 1 ปี” นายมานพกล่าว
