เมื่อเวลา 17.00น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.ส.4 พล.ต.วิจารณ์ หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คสช. พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คสช. เดินทางมารับมอบตัวผู้ต้องหาที่กระทำความผิดเกี่ยวกับการยักยอกอาวุธปืนภายในค่ายทหาร โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุม พร้อมจัดเตรียมสถานที่การรับส่งตัวผู้ต้องหา โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง
ต่อมาเวลา 18.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ทหารจากสังกัดมทบ.11 ได้นำตัว ร.ต.ต.จันทร์เพ็ชร บุญผ่องศรี อดีตนายตำรวจสังกัดกก.ตชด.24(อุดรธานี) ด.ต.สุชาติ ใจตาง สังกัด กก.ตชด.ที่ 24 (อุดรธานี) ด.ต.กิตติชัย จุลเหลา อดีตตำรวจสังกัดกก.ตชด.ที่ 24 (อุดรธานี) และด.ต.นิมิตร สานก้อย ตำรวจสังกัดกก.4บก.กฝ.ตชด (อุดรธานี) รวมถึง ร.ต.ท.อีก2นาย และด.ต.อีก1นาย มาส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ ทำประวัติ โดยมีแพทย์จากรพ.ตำรวจเป็นผู้ทำการตรวจ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบกรณีอาวุธปืนยุทธภัณฑ์หายไป ตั้งแต่ปี 2554 ของตชด.ที่จ.อุดรธานี มีการสืบสวนเบื้องต้นกลุ่มผู้ต้องหามีทั้งที่เป็นข้าราชการตำรวจและที่เคยรับราชการตำรวจ แต่ถูกให้ออกราชการแล้ว สำหรับพฤติกรรมนั้นอยู่ระหว่างการสืบสวน และขยายผลเพิ่มเติมว่ากลุ่มผู้ต้องหานำปืนไปจำหน่ายหรือกระจายไปที่ใดบ้าง แต่เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดปืนหลวงคืนมา1กระบอกจาก 885 กระบอก อยู่ระหว่างขยายผล ยืนยันว่าหากพบใครเกี่ยวข้องจะจับกุม เรื่องนี้ทางฝ่ายความมั่นคงอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตาม ทั้งนี้เชื่อมโยงกับกลุ่มขอนแก่นโมเดลหรือเหตุความไม่สงบอื่นๆหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบ ในส่วนของอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้ต้องนำไปเทียบเคียงว่าเคยถูกนำไปใช้ก่อเหตุหรือไม่ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางบก.ภ.จว.อุดรธานี จะเดินทางมารับตัวทั้งหมดไปดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย เบื้องต้นแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนที่เป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมาย ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ด้านด.ต.สุชาติ กล่าวว่า ก่อเหตุนำอาวุธปืนยุทธภัณฑ์ไปกว่า 20 กระบอก ส่วนใหญ่เป็นปืนชนิดเอ็ม 16 และเอชเค พวกตนรู้จักกันและร่วมกันก่อเหตุ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับขอนแก่นโมเดล หรือกลุ่มความไม่สงบอื่นๆ และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกรณีดังกล่าวนั้น เนื่องจากในการประชุมก.ตร. เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมามีการนำเรื่องเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของ ตชด.สูญหาย จำนวน 885 กระบอก ทางพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.(มค) ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วรายงานผลให้ทราบ จากนั้นพล.ต.อ.ศรีวราห์ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย บช.ตชด. สกบ. กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค.6 ตรวจสอบข้อเท็จจริงการดำเนินการคดีอาญา วินัย คดีแพ่ง และติดตามอาวุธปืนที่สูญหายคืน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในห้วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 2552 – 30 มิถุนายน 2557 โดยเกิดเหตุภายในคลังสรรพาวุธ กก.ตชด.24 อ.เมือง จ.อุดรธานี,กองร้อย ตชด.245 อ.เมือง จ.หนองคาย และกองร้อย ตชด.247 อ.ด่านซ้าย จ.เลย ทั้งนี้ในส่วนอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่หายไป ประกอบไปด้วย อาวุธปืน จำนวน 885 กระบอก เช่น อาวุธปืน M16 , HK 33, M79 อาวุธปืนพกสั้นชนิดต่างๆ กระสุนปืน จำนวน 15 รายการ เช่น กระสุนปืนเล็กขนาด 5.56 มม. ฯลฯ วัตถุระเบิด จำนวน 18 รายการ เช่น ระเบิดขว้างสังหาร M67, K75 เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้กระทำความผิดในขั้นต้น จำนวน 5 นาย ประกอบด้วย 1.ร.ต.ต.จันทร์ เพ็ชรบุญผ่องศรี 2.ด.ต.นิติพงษ์ มาตรี 3.ด.ต.กิตติชัย จุลเหลา 4.ด.ต.อุเทน โสภิณ และ5.พ.ต.ท.หญิง พรเฉลิม เสนาสุ โดยวันและเวลาดังกล่าว ผู้ต้องหาทั้งหมดมีหน้าที่ในการดูแลรักษาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของทางราชการ ได้ร่วมกันยักยอกเอาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในคลังสรรพาวุธของ กก.ตชด.24 ไปจำหน่าย และยังได้อาศัยเหตุที่ตนมีอำนาจหน้าเช่นนั้นไปตรวจสอบ แล้วรับมอบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจากหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ กองร้อย ตชด.245 จว.หนองคาย, กองร้อย ตชด.247 จว.เลย เพื่อนำไปเก็บรักษาในคลังสรรพาวุธของ กก.ตชด.24 ที่ตนมีหน้าที่ดูแลอยู่ แต่ได้ร่วมกันเบียดบังยักยอกเอาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนนั้นไปจำหน่าย อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุ ทางบช.ตชด ต้นสังกัด ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและพิจารณาลงทัณฑ์ดำเนินคดีทางวินัย โดย มีคำสั่งให้ ร.ต.ต.จันทร์เพ็ชร บุญผ่องศรี, ด.ต.นิติพงษ์ มาตรี ด.ต.อุเทน โสภิณ และ ด.ต.กิตติชัย จุลเหลา ออกจากราชการ ส่วนพ.ต.ท.หญิง พรเฉลิม เสนาสุ ปลดออกจากราชการ (อุทธรณ์คำสั่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ ก.ตร.)
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ นกอยู่ รอง ผกก.ตชด.24 เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี, สภ.เมืองหนองคาย และสภ.ด่านซ้าย ให้ดำเนินคดีทางอาญากับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้กระทำผิด โดยร.ต.ต.จันทร์เพ็ชร บุญผ่องศรี ด.ต.อุเทน โสภิณ และ ด.ต.กิตติชัย จุลเหลา รวมถึงด.ต.อีกนายหนึ่ง ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต จำนวน 5 คดี ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการดำเนินการของ ป.ป.ท. จำนวน 4 คดี และของพนักงานสอบสวน จำนวน 1 คดี พร้อมทั้งให้ชดใช้ความเสียหายทางละเมิด มูลค่าความเสียหาย จำนวน 38,531,664บาท มีผู้ต้องรับผิดชอบ จำนวน 10นาย
ภายหลังเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมก.ตร. ได้มีการดำเนินการขยายผล เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ร่วมกัน ตรวจค้นบ้านพักพบอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนที่ผิดกฎหมาย จึงเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดธานี ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดอุดรธานีเพื่อออกหมายจับตำรวจ 4 นาย ดังนี้ ด.ต.สุชาติ ใจตาง หมายจับที่ จ.47/2560 ฐาน มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนที่เป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมาย ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร.ต.ท.จันทร์เพ็ชร บุญผ่องศรี หมายจับที่ จ.48/2560 ฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครองครอง ด.ต.กิตติชัย จุลเหลา หมายจับที่ จ.46/2560 ฐานมีเครื่องกระสุนปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการสงคราม ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ หรือ โดยผิดกฎหมาย และ ด.ต.นิมิตร สานก้อย หมายจับที่ จ.45/2560 ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
