ออกหมายจับอดีตส.ส.เพื่อไทย-กำนันหญิง พันคดีจ้างฆ่า หลังกองปราบบุกค้น22จุดยึดปืน50กระบอกอุทัยธานี

ปฏิบัติการ”สยบริปูสะท้าน”จับ 3 ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่น เปิดยุทธการ “ไพร่ฟ้าหน้าใส” ค้น 22 จุด อุทัยธานี อาณาจักรอดีต ส.ส.พท.-นักการเมืองท้องถิ่นยึดปืน 50 กระบอก จ่อชงออกหมายจับ หน.กลุ่มซากุระ-กำนันหญิง

เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 7 มีนาคม พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พล.ต.ต.บัญชา ปั้นประดับ ผบก.ภ.จว.อุทัยธานี พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.4 บก.ป พ.อ.ประสาน แสงศิริรักษ์ ผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.อุทัยธานี (ผบ.กกล.รส.จว.อุทัยธานี) สนธิกำลังตำรวจกองปราบปราม ชุดปฏิบัติการพิเศษสยบริปูสะท้าน ตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี และทหาร กกล.รส.จว.อุทัยธานี กว่า 200 นาย ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เข้าจับกุมผู้ต้องหา 3 คน ใน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ประกอบด้วย 1. นายบุญยิ่ง จันทร อายุ 60 ปี 2. นายธเนตร วงษ์เนตร อายุ 22 ปี 3.นายมนัส หวางจีน อายุประมาณ 40 ปี โดยทั้งสามคนเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุทัยธานี ในฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงในงานศพภายในบ้านเลขที่ 99/7 หมู่ 5 ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เป็นเหตุให้นายจำเนียน มาหัวเขา นายลำดวน พันทะ นายบุญถิ่น กุลธานี เสียชีวิต และนายดุสิต ศรีวรรณ อายุ 43 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมยึดของกลางปืน เอ็ม 16 ที่ใช้ก่อเหตุ 1 กระบอก กระสุน 43 นัด ทั้งหมดจับได้ในที่พักและที่หลบซ่อนตัวใน ต.น้ำรอบ อ.ลายสัก โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและให้การพาดพิงไปยังผู้บงการว่ามีอดีตนักการเมืองระดับชาติ และนักการเมืองท้องถิ่นเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยประเด็นการก่อเหตุมาจากความขัดแย้งเรื่องการเมืองในจังหวัดและขัดผลประโยชน์

ต่อมา พล.ต.ท.ฐิติราช สนธิกำลังตำรวจกองปราบปราม ชุดปฏิบัติการพิเศษสยบริปูสะท้าน ตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี และทหาร กกล.รส.จว.อุทัยธานี กว่า 200 นาย ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ขยายผลการจับกุมเปิดยุทธการไพร่ฟ้าหน้าใส ปูพรมตรวจค้น 22 จุด ในพื้นที่ ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ตามนโยบายการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง หลังพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเกิดเหตุอาชญากรรมบ่อยครั้ง รวมถึงคดีสำคัญ อย่างคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงกลางงานศพ

2.
โดยเป้าสำคัญคือการเข้าตรวจค้นไร่ข้าวโพดซากุระ เลขที่ 98 ม.5 ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก ซึ่งเป็นบ้านนายสุภาพ โต๋วสัจจา อายุ 67 ปี อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยบ้านดังกล่าวตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณกว่า 5 ไร่ มีบ้านแยกย่อย 3 หลัง และโรงข้าวโพด รวมทั้งโรงรถ จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนยาวลูกซองจำนวน 2 กระบอก อาวุธปืนสั้น 3 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนเบอร์ 12 และกระสุนปืนขนาดต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยอาวุธปืนดังกล่าวมีนายสุเทพ โต๋วสัจจา เป็นผู้ครอบครอง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ

กำลังอีกจุดได้เข้าตรวจค้นฟาร์มควายซากุระ เลขที่ 98/2 ม.5 ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก ซึ่งบ้านนายณรงค์ศักดิ์ โต๋สัจจา อายุ 60 ปี เป็นนายก อบต.ตำบลน้ำรอบ จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนยาวไรเฟิลติดลำกล้อง จำนวน 1 กระบอก ปืนยาวออโตเมติก 1 กระบอก ปืนสั้น 3 กระบอก มีด 8 เล่ม และขวาน 2 เล่ม พร้อมเครื่องกระสุนขนาด 9 มม. กระสุนปืนเบอร์ 12 และกระสุนปืนขนาด 22 จำนวนหลายนัด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบ นอกจากนี้ตำรวจกองปราบยังปูพรมตรวจค้นบ้านนักการเมืองท้องถิ่นในเขต อ.ลานสัก พร้อมยึดอาวุธปืนมากกว่า 50 กระบอก รถจักรยานยนต์ ซูซูกิ รุ่นสแมช สีดำ 1 คัน ไม่ติดหมายเลขทะเบียน
2

Advertisement

รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับยุทธการไพร่ฟ้าหน้าใส เป็นการขยายผลจากการคำให้การของผู้ต้องหาทั้งสามที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ โดยให้การซัดทอดว่ามีผู้บงการเป็นนักการเมืองระดับชาติและนักการเมืองท้องถิ่น โดยพฤติกรรมของขบวนการนี้คือ 1.นายบุญยิ่ง จันทร เป็นคนรับงาน 2.นายธเนตร วงษ์เนตร เป็นมือปืน 3.นายมนัส หวางจีน เป็นผู้จัดหาให้ที่พัก และนายสราวุฒิ เรืองดาดะ เป็นคนขี่จักรยานยนต์ ซูซูกิ รุ่นสแมช สีดำก่อเหตุ ซึ่งนายบุญยิ่งเป็นผู้รับงานมาจากนักการเมืองระดับชาติและนักการเมืองท้องถิ่น โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 3 หมื่นบาท แต่ยังจ่ายเงินไม่ครบจ่ายเพียงเคสละ 1 หมื่นบาท

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ฐิติราช พล.ต.ต.กรเอก พล.ต.ต.สุทิน และชุดพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้มอบให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นคำให้การของผู้ต้องหา และหลักฐานอื่นๆ ที่เชื่อมโยง ขออำนาจศาลจังหวัดอุทัยธานีออกหมายจับผู้บงการ 2 ราย ในฐานความผิดข้อหาเป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นโดยการใช้การจ้างวาน หรือยุยงส่งเสริมหรือกระทำการด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยรายแรกคือนายสุภาพ โต๋วสัจจา อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 2 จ.อุทัยธานี หัวหน้านักการเมืองกลุ่มซากุระ หลังแนวทางการสืบสวนและคำให้การของผู้ต้องหาซัดทอดว่าเป็นผู้บงการสังหารสารวัตรกำนันรายหนึ่งในงานศพ แต่ปรากฏว่ามีผู้โดนลูกหลงเสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บ 1 ราย โดยปมสังหารมาจากความขัดแย้งในเรื่องการเมืองและขัดแย้งเรื่องการทำเหมืองแร่และสัมปทานเหมืองแร่ รายที่สองคือ น.ส.เยาวพร รัตนมณีพันธ์ กำนันตำบลลานสัก หลังแนวทางการสืบสวนและคำให้การของผู้ต้องหาซักทอดว่าเป็นผู้บงการสังหารนายบุญจันทร์ ชาลีนิวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา โดยปมสังหารมาจากการเมืองท้องถิ่น โดยศาลอนุมัติหมายจับนายสุภาพ และน.ส.เยาวพร ตามคำร้องแล้ว

รวมทั้งออกหมายจับนายสมนึก ปานศิลา หรือนายแก่ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดหาขายอาวุธปืนในการก่อเหตุ ในฐานความผิดมีและครอบครองอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image