รัฐบาลอังกฤษภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ต้องประสบความพ่ายแพ้ในการผลักดันให้มีการเดินหน้ากระบวนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป(อียู) หรือเบร็กซิทอีกครั้งหลังสภาขุนนางได้ลงมติ 366 เสียงต่อ 268 เสียง เรียกร้องให้ต้องนำข้อตกลงสุดท้ายของการถอนตัวออกจากอียูกลับมาให้ที่ประชุมรัฐสภาลงมติอย่างมีความหมาย
ด้านรัฐมนตรีในรัฐบาลระบุว่ารู้สึกผิดหวังกับท่าทีดังกล่าว และพยายามที่จะหาทางคว่ำข้อมตินี้หลังร่างกฎหมายฉบับนี้ถูกส่งกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งที่สองของรัฐบาลหลังจากก่อนหน้านี้ที่ประชุมสภาขุนนางได้มีมติให้อังกฤษต้องทำการรับรองสิทธิของพลเมืองอียูในอังกฤษหลังกระบวนการเบร็กซิทด้วย
ที่ประชุมสภาขุนนางได้ใช้เวลาถูกเถียงในเรื่องนี้มากกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการหารือครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ต่อกรณีการออกกฏหมายที่จะอนุญาตให้นายกรัฐมนตรีแจ้งกับอียูอย่างเป็นทางการถึงความตั้งใจของอังกฤษที่จะออกจากอียู เพื่อเป็นการปูทางไปสู่การเริ่มต้นการเจรจาเบร็กซิทอย่างเป็นทางการระหว่างกัน
ผลการลงคะแนนเสียงดังกล่าวถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ปีค.ศ. 1831 โดยถึงกับมีผู้ระบุว่าการลงมติครั้งนี้เป็นดังการวีโต้ร่างกฎหมายฉบับนี้ อย่างไรก็ดีรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลยืนยันว่าอังกฤษจะต้องออกจากอีอยู่ไม่ว่าที่ประชุมรัฐสภาจะรับรองเรื่องหรือไม่ก็ตาม
