ด่านกักกันสัตว์พบสารเร่งเนื้อแดงโคขุน! ก่อนส่งปลายทางเวียดนาม

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม บริเวณสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 (นครพนม – คำม่วน) บ้านห้อม ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม น.ส.ฐิติมา  ศรีคำ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ด่านกักกันสัตว์จังหวัดนครพนม ได้ทำการตรวจปัสสาวะโคขุน เพศผู้ จำนวน 16 ตัว เพื่อหาสารเร่งเนื้อแดง โคขุนทั้งหมดส่งมาจากต้นทาง บ้านเลขที่ 70 ม.12 ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ ปลายทางประเทศเวียดนาม โดยใช้เส้นทางสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 (นครพนม–คำม่วน) ขนส่งโคขุน ผลจากการตรวจแบบ Strip  test (แถบทดสอบ) ปรากฏว่า โคขุนทั้ง 16 ตัว มีผลเป็น Positive (บวก) เนื่องจากเกษตรกรผู้เลี้ยงใช้สารเร่งเนื้อแดง จึงได้ทำการส่งตัวอย่างปัสสาวะโคขุนให้สำนักงานตรวจสอบสินค้าปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ (ส.ต.ส.) ยืนยันผลการตรวจอีกครั้ง ส่วนโคขุนทั้ง 16 ตัว ได้นำไปดูแลยังด่านกักกันสัตว์นครพนม ม.10 บ้านหนองบัว ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เพื่อรอการยืนยันผลต่อไป

น.ส.ธิติมา เปิดเผยว่า ตามที่กรมปศุสัตว์มีนโยบายปราบปรามการใช้สารเร่งเนื้อแดงในโคขุน และได้กำหนดแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาออกมาแล้วนั้น การตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเร่งเนื้อแดงในโคขุนก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นำมาปฏิบัติ โดยให้ด่านกักกันสัตว์ดำเนินการดังนี้ สุ่มเก็บตัวอย่างปัสสาวะโคที่เคลื่อนย้ายผ่านด่าน เพื่อตรวจ จำนวน 1–3 ตัวอย่าง หากผลตรวจเป็นบวก ต้องส่งตัวอย่างปัสสาวะที่เก็บต่อไปยัง ส.ต.ส.เพื่อตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ พร้อมอายัดโคทั้งหมดไว้ที่ด่านกักกันสัตว์ เพื่อรอผลการตรวจยืนยัน หากผลการตรวจยืนยันเป็นลบ ให้รีบถอนอายัดโคทั้งหมด แต่หากผลการตรวจยืนยันยังเป็นบวกอยู่ จะต้องอายัดโคทั้งหมดไว้จนครบ 21 วัน แล้วจึงทำการตรวจอีกครั้ง หากผลการตรวจเป็นลบ ให้ทำการถอนอายัด แต่หากผลการตรวจเป็นบวก ให้อายัดไว้จนกว่าผลการตรวจจะออกมาเป็นลบ อีกทั้งแจ้งไปยังสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดท้องที่ต้นทางที่เคลื่อนย้ายโคออกมา เพื่อให้ท้องที่ต้นทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของโค ซึ่งหากโคทั้งหมดหลุดรอดไปถึงมือผู้บริโภคเข้าไปสะสมในร่างกายจำนวนมาก จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งตามมาภายหลังได้ ที่ผ่านมาตรวจสอบสารเร่งเนื้อแดงในโคขุน จำนวน 5 – 6 พันตัว ยังไม่พบผลเป็นบวกเช่นนี้มาก่อน จึงต้องเข้มงวดในการตรวจสารเร่งเนื้อแดงในโคขุนอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ กรมปศุสัตว์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image