เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธณะ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการดำเนินการกับวัดพระธรรมกายว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำรายงานให้ตนทราบอยู่ทุกวันตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อติดตามจับกุมตัวพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร ในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ในวันนี้ประเด็นเรื่องการจับกุมตัวพระธัมมชโยเป็นเรื่องของดีเอสไอที่จะต้องดำเนินการไปหาตัวพระธัมมชโยมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ให้ดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่และต้องไปหยุดยั้ง อีกเรื่องคือ การบังคับใช้กฎหมายกรณีอื่น ๆ คดีความที่เกิดขึ้นทั้งหมด และคดีความที่เกิดขึ้นใหม่ ให้ทำไปเต็มอำนาจหน้าที่ ส่วนประเด็นเกี่ยวกับการบริหารวัดพระธรรมกายนั้น ได้รับรายงานว่า ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) คณะสงฆ์ โดยเฉพาะเจ้าคณะใหญ่หนกลาง และเจ้าคณะภาค ได้ดำเนินการบางส่วนไปบ้างแล้ว
นายสุวพันธุ์ กล่าวต่อว่า สำหรับคดีของวัดพระธรรมกายที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินนั้น ดีเอสไออยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนคดีที่เกี่ยวกับการลุกล้ำที่ดินสาธารณะ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กำลังดำเนินการอยู่เช่นกัน ส่วนสองเรื่องนี้จะมาเจอกันอย่างไร ทั้งสองหน่วยงานมีการพูดคุยกันอยู่ แต่จะไปถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการทำงาน อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีดังกล่าว จะต้องสืบสวนสอบสวนไปถึงบุคคลที่ดูแลเงินบริจาคของวัดพระธรรมกายด้วยหรือไม่นั้น ตรงนี้ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและข้อมูลว่าจะไปถึงใครที่ทำผิดกฎหมายหรือไม่ หากผิดกฎหมายต้องปฏิบัติตามกฎหมายให้หมดทุกคน ทั้งนี้เมื่อดีเอสไอทำงานไปได้สักระยะ จะให้พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ แถลงผลการดำเนินการเกี่ยวกับคดีของวัดพระธรรมกายให้ประชาชนและสังคมให้รับทราบต่อไป เพราะมีเนื้อหารายละเอียดเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย
นายสุวพันธุ์ กล่าวถึงกรณีปรากฏข่าวว่าพระทัตตชีโว รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย นำเงินของวัดไปเล่นหุ้น ว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้รับรายงาน สำหรับระยะเวลาในการใช้อำนาจตามกฎหมาย มาตรา 44 ที่กำหนดให้พื้นที่วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษนั้น เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวให้อำนาจอธิบดีดีเอสไอ ขณะนี้ยังไม่รายงานมาให้ยกเลิกการใช้กฎหมาย มาตรา 44 และยังไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย ดังนั้นเมื่อยังไม่มีการเสนอมา ตนยังไม่ได้ทำอะไร อีกทั้งอธิบดีดีเอสไอเป็นผู้ปฏิบัติและน่าจะมีข้อพิจารณาว่าเรื่องนี้ควรดำเนินการอย่างไรต่อไป ขณะนี้ยังไม่ได้เสนอมา ต้องปฏิบัติแบบนี้ต่อไป ทั้งนี้เรื่องดังกล่าว ต้องปล่อยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทุกอย่างไปตามกฎหมาย และทำด้วยความถูกต้อง
