กกต.จับมือ หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน เพิ่มหลักสูตรพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย หวังสร้างเยาวชนคุณภาพตามหลักประชาธิปไตย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 มีนาคม ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ นายประวิช รัตนเพียร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย พล.ท.วีรชัย อินทุโศภน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ร่วมเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมชี้แจงชี้แจงแนวทาง และกระบวนการเรียนรู้หลักสูตรพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย ที่จะนำไปใช้ในการเรียนรู้ของนักศึกษาวิชาทหาร แก่ผู้บังคับศูนย์การฝึกนักศึกษาวิชาทหาร ผู้บังคับหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร ผู้บังคับศูนย์ฝึกย่อยส่วนกลาง พร้อมกับรับมอบนโยบายความร่วมมือในการส่งเสริมความเป็นผลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย จากผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเรียนการสอน พร้อมกันนี้ยังได้มอบโล่ขอบคุณเพื่อแสดงว่าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ร่วมมือในการสร้างพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตยด้วย
นายประวิช กล่าวว่า การจัดประชุมครั้งนี้เพื่อชี้แจงแนวทางและกระบวนการเรียนรู้หลักสูตรพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย ที่จะนำไปใช้ในการเรียนรู้ของนักศึกษาวิชาทหาร ซึ่งที่ผ่านมากกต.ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ในการส่งเสริมการเรียนรู้หลักสูตรพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตยแก่นักศึกษาประมาณ 3 แสนคน ทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นเยาวชนที่มีคุณภาพ นำไปสู่การเป็นพลเมืองคุณภาพในอนาคต ทั้งนี้หลักสูตรดังกล่าว จะแบ่งออกเป็น 5 ชั้นปี โดยชั้นปีที่ 1 เรียนรู้ในเรื่อง ชีวิตกับการเมือง ชั้นปีที่ 2 เรียนรู้เรื่อง รัฐธรรมนูญสำคัญอย่างไร ชั้นปีที่ 3 เรียนรู้เรื่อง พลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย ชั้นปีที่ 4 เรียนรู้เรื่อง ต้นไม้ประชาธิปไตย และชั้นปีที่ 5 เรียนรู้เรื่อง กลไกการตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส
“หลักสูตรดังกล่าวมีการปรับให้เหมาะสม และเป็นไปตามหลักพลเมืองที่ดีวิถีประชาธิปไตย ทั้งเรื่องการวางตัวเป็นกลาง การเคารพกฎหมาย การรู้จักสิทธิและหน้าที่ของตน การไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ทั้งนี้ผมมีความรู้สึกภาคภูมิใจ ที่ทั้ง 2 หน่วยงานร่วมกันทำในเรื่องที่เป็นประโยชน์ และสำคัญอีกครั้งหนึ่ง และยังรู้สึกขอบคุณที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนให้ความร่วมมือทำให้การปลูกฝังการเรียนรู้พลเมืองดีวิถีประชาธิปไตยอย่างจริงจังกับนักศึกษาวิชาทหาร”นายประวิช กล่าวและว่า หลังจากนี้ กกต.จะมีการจัดอบรม วิทยากรกระบวนการให้กับ ผู้บังคับศูนย์การฝึกนักศึกษาวิชาทหาร ผู้บังคับหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร ผู้บังคับศูนย์ฝึกย่อยส่วนกลาง เพื่อนำไปอบรมนักศึกษาวิชาทหารต่อไป
ด้าน พล.ท.วีรชัย กล่าวว่า หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนมีหน้าที่ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร เพื่อให้เป็นกำลังพลสำรองของประเทศ แต่ละปีจะมีประมาณ 3 แสนคนเข้าร่วมฝึก ซึ่งจะจบการฝึกประมาณ 1 แสนคน ในจำนวนนี้จะมีบางส่วนที่เป็นกำลังพลสำรอง และบางส่วนที่ออกไปประกอบอาชีพอย่างอื่น จึงมีวัตถุประสงค์ว่านอกจากจะฝึกกำลังพลสำรองแล้ว เราต้องสร้างเยาวชนที่มีคุณภาพให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในอนาคต ซึ่งมีการปรับให้มีการเรียนรู้และทำกิจกรรมอื่นๆ ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และเวลาฝึก 60 เปอร์เซ็นต์ นอกจากการเรียนรู้ในหลักสูตรพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตยแล้วยังมีการสนับสนุนให้นักศึกษาวิชาทหารร่วมทำกิจกรรมเผยแพร่ความรู้และความเข้าใจ ก่อนที่จะมีการจัดเลือกตั้งอีกด้วย
