นายดั๊ก เดอโวส ประธานบริษัท แอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น (สำนักงานใหญ่) และประธานสมาพันธ์การขายตรงโลก เปิดเผยว่า ปี 2559 ที่ผ่านมายิดขายของบริษัทเติบโตขึ้น 7% หรือมียอดขาย 8.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อนหน้า เนื่องจากจีนได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจทำให้ยอดขายจากจีนซึ่งมีสัดส่วนยอดขายอันดับ 1 ของบริษัทตกลงไปด้วย ส่วนภาพรวมตลาดขายตรงทั่วโลกปี 2560 คาดว่าจะโตประมาณ 6-7% มีมูลค่าตลาดรวมใกล้เคียงกันกับยอดขายในตลาดขายตรงปี 2558 ที่มีมูลค่าประมาณ 1.80 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังและคาดว่าจะกระทบกับธุรกิจขายตรงคือ ปัจจัยภาวะเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ มองว่าตลาดขายตรงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจะเติบโตได้ดีที่สุด เนื่องจากยอดขาย 5 อันดับแรกของแอมเวย์อยู่ในภูมิภาคนี้เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น สหรัฐ และไทย
นายเดอโวสกล่าวว่า ทิศทางการดำเนินงานหลังจากนี้ บริษัทจะใช้กลยุทธ์แอมเวย์เน็กซ์และจะลงทุนด้านเทคโนโลยีมากขึ้น โดยคาดว่าภายใน 5-10 ปีนี้จะลงทุนในเทคโนโลยีประมาณ 50% ของงบลงทุนทั้งหมด ทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และช่องทางอีคอมเมิร์ซ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสมาชิก ส่วนการลงทุนในไทยได้วางกลยุทธ์ไปในทางเดียวกัน และมองว่าธุรกิจขายตรงในไทยจะมีชนชั้นกลางและคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจดูแลสุขภาพและความงาม จากแบรนด์สินค้านิวทรีไลท์และอาร์ทิสทรีที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค
นางนลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการบริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้สินค้าของกิฟฟารีน ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กาแฟผง ผงมอลล์ยังคงเติบโตดี แต่เครื่องดื่มที่มีหน้าที่เฉพาะ (ฟังก์ชั่นนอลดริ้งก์) มียอดขายลดลง เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมเป็นบางช่วง ดังนั้น บริษัทจะปรับกลยุทธ์โดยการออกสินค้าใหม่ และขยายช่องทางจำหน่ายทางออนไลน์เพิ่มขึ้น
